เริ่มต้นปี 2025 ใครแพลนออกทริปเดินป่าอยู่บ้าง? วันนี้เรารวบรวม 10 อันดับ รองเท้าเดินป่ายี่ห้อไหนดี ปี 2025 มาให้พร้อม และถ้าทริปนี้ไม่อยากขับรถไปเองให้เสียแรงก่อนเริ่มเดินป่าจริง ๆ ลองจองรถพร้อมคนขับล่วงหน้ากับ Toppattayataxi.com ไว้ได้เลย จะได้โฟกัสกับการเดิมป่าได้อย่าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเลือกรองเท้าเดินป่าคู่โปรดได้เต็มที่ เพราะแต่ละรุ่นสวยสะกดแน่นอน
- รองเท้าเดินป่าดียังไง ทำไมสายเดินป่าตัวยงถึงต้องมีไว้?
- ประเภทของรองเท้าเดินป่า แบบไหนที่ใช่สไตล์คุณ?
- 5 วิธีเลือกซื้อรองเท้าเดินป่าให้เหมาะกับการใช้งาน พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจไปตลอดเส้นทาง
- จัดอันดับ 10 รองเท้าเดินป่ายี่ห้อไหนดี ที่คุณควรมีติดไว้สักคู่ ดีไซน์สวย ใส่สบาย ตอบโจทย์สายเดินป่าทุกคนอย่างแน่นอน
- วิธีดูแลรักษารองเท้าเดินป่าให้คงสภาพดี ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลืองงบ
- บทส่งท้าย
- คำถามที่พบบ่อย
รองเท้าเดินป่าดียังไง ทำไมสายเดินป่าตัวยงถึงต้องมีไว้?
การเลือกรองเท้าเดินป่า ไม่เพียงแค่ต้องเลือกซื้อ รองเท้าเดินป่า ยี่ห้อไหนดี เท่านั้น แต่เหตุผลที่รองเท้าเดินป่าแนะนำ ให้นักเดินป่าทั้งหลายควรมีไว้สักคู่ เพราะว่ารองเท้าเดินป่านั้นไม่ใช่แค่รองเท้าธรรมดา แต่ยังเป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเท้าของคุณที่จะเจอกับสภาพแวดล้อม และสภาพอากาศที่หลากหลายระหว่างที่เดินป่า
อีกทั้งรองเท้าเดินป่าส่วนใหญ่จะมีความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี ที่สำคัญเหมาะกับการเดินไกล ๆ ในทางที่มีความขรุขระ ซึ่งรองเท้าวิ่ง หรือรองเท้าใส่เดินทั่ว ๆ ไปมักจะไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้นั่นเอง และเราขอแนะ ถ้าจะดีที่สุด ให้พก ไม้เท้าเดินป่า ไปด้วย เพื่อช่วยประคองจังหวะการเดิน ลดภาระเข่า และเซฟพลังได้ดีขึ้นมาก 2 อย่างนี้คือไอเทมเดินป่าที่ขาดไม่ได้เลยนะ
ประเภทของรองเท้าเดินป่า แบบไหนที่ใช่สไตล์คุณ?
รองเท้าเดินป่าไม่ได้มีแบบเดียว แต่แบ่งออกได้หลายประเภทตามการใช้งานและระดับความโหดของเส้นทาง แต่ละแบบก็มีจุดเด่น–ข้อจำกัดแตกต่างกันไป บางรุ่นเน้นความปลอดภัย บางรุ่นเน้นความเบาและคล่องตัว ดังนั้นก่อนเลือกซื้อควรรู้ว่าตัวเองจะไปลุยเส้นทางแบบไหน เช่น ป่าฝนชื้น หินโขดสูง หรือแค่เดินชิล ๆ บนทางดิน
เพื่อจะได้เลือกรองเท้าที่ตอบโจทย์ที่สุด ระหว่างเลือกรองเท้าอย่าลืมเช็ก ชุดเดินป่า ให้พร้อม ใส่สบาย คล่องตัว จะได้เดินสนุกได้ยาว ๆ จากนี้มาดูกันว่า รองเท้าเดินป่ามีประเภทไหนบ้าง และแต่ละแบบเหมาะกับใคร
🔥รองเท้าเดินป่าหุ้มข้อสูง (High-Cut) – สายโหดต้องมี สุดขีดทุกเส้นทาง
ถ้าใครเป็นสายลุยเส้นทางโหด ๆ อย่างป่าดิบ เส้นทางหิน หรือทางลาดชัน รองเท้าหุ้มข้อสูง คือตัวเลือกที่ใช่สุด ๆ เพราะมันช่วยพยุงข้อเท้าได้ดี ลดโอกาสพลิกหรือเจ็บข้อเท้า และยังกันสิ่งแปลกปลอม เช่น กิ่งไม้หรือเศษหินเล็ก ๆ ได้ด้วย ข้อเสียคือหนักกว่าประเภทอื่น แต่ถ้าเน้นความปลอดภัยก็ต้องจัดเลย
⚡รองเท้าเดินป่าหุ้มข้อกลาง (Mid-Cut) – สายบาลานซ์ มั่นคงทุกเส้นทาง
สำหรับคนที่อยากได้ทั้ง ความคล่องตัว + การพยุงข้อเท้า รองเท้าหุ้มข้อกลางถือว่าลงตัวมาก ไม่หนักเท่าหุ้มข้อสูง แต่ยังให้ความมั่นคงเวลาลุยเส้นทางกลาง ๆ เช่น ทางดิน ทางชื้น หรือเนินเขา เหมาะกับคนที่เริ่มจริงจังกับการเดินป่า และอยากได้รองเท้าที่ใส่ได้ยาว ๆ หลายสถานการณ์
🏃รองเท้าเดินป่าโลว์คัท (Low-Cut) – ใส่ง่าย เบาสบาย คล่องตัวแบบสุด ๆ
ใครเป็นมือใหม่หรือสายชิลที่อยากได้ความเบา คล่องตัว รองเท้าโลว์คัท คือคำตอบ เพราะน้ำหนักเบา ระบายอากาศดี และใส่สบายเหมือนรองเท้าผ้าใบทั่วไป เหมาะกับการเดินเส้นทางง่าย ๆ หรือเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ได้โหดมาก แต่ข้อควรระวังคือป้องกันข้อเท้าได้น้อยกว่าแบบหุ้มข้อ
🌿รองเท้าเดินป่าไลท์เวท (Lightweight Hiking Shoes) – เท่แบบสตรีทก็ได้ ลุยไหนก็ไหว
รุ่นนี้คือ สายแฟชั่นผสมสายลุย เพราะดีไซน์เบา ทันสมัย บางรุ่นใส่เที่ยวก็ได้ ลุยป่าก็ไหว เหมาะกับคนที่ไม่อยากพกหลายคู่ แต่ต้องการรองเท้าอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งเดินทางใกล้ ๆ หรือออกทริปแคมป์ปิ้งสั้น ๆ จุดเด่นคือใส่แล้วไม่รู้สึกเทอะทะ แต่ถ้าเจอเส้นทางหนักจริง ๆ อาจไม่ทนเท่าหุ้มข้อสูง
5 วิธีเลือกซื้อรองเท้าเดินป่าให้เหมาะกับการใช้งาน พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจไปตลอดเส้นทาง
ก่อนที่จะไปดู 10 อันดับรองเท้าเดินป่ายี่ห้อไหนดี เรามาดูวิธีเลือกซื้อ รองเท้าเดินป่าสำหรับมือใหม่ กันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าซื้อยังไงจะได้รองเท้าที่ถูกใจ ใส่สบาย และเป็นเพื่อนคู่ใจไปตลอดเส้นทาง หรือถ้าอยากยกระดับความท้าทาย ลองวางแผน กิจกรรมแอดเวนเจอร์ ที่เหมาะกับสไตล์ของคุณ แล้วค่อยเลือกรองเท้าที่ซัพพอร์ตแรงกระแทกและการยึดเกาะให้ตอบโจทย์เส้นทางนั้น ๆ โดยการเลือกซื้อรองเท้าให้ถูกใจง่าย ๆ ให้คุณลิสต์วิธีตามนี้ได้เลยค่ะ
1. เลือกจากลักษณะของเส้นทาง
ก่อนออกเดินป่าทุกครั้งการศึกษาเส้นทางเดินนับเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะจะทำให้คุณได้วางแผนและเตรียมตัวได้เป็นอย่างดีก่อนที่จะไปเจอสนามจริง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมอุปกรณ์เดินป่า อาหาร เสื้อผ้า รวมไปถึงรองเท้าที่สวมใส่ด้วย
โดยลักษณะของเส้นทางที่ราบเรียบ, ขรุขระและเส้นทางลุยน้ำ ก็จะมีรองเท้าที่เหมาะสมต่างกันออกไป นอกจากเลือกรองเท้าให้เข้ากับเส้นทางแล้ว อย่าลืมบาลานซ์น้ำหนัก กระเป๋าเดินป่า ให้ดี หยิบใช้ง่ายและไม่ถ่วงจังหวะตลอดทริป
2. เลือกจากสภาพอากาศ
หากเดินป่าในช่วงหน้าร้อน หรือเขตที่มีอากาศร้อนชื้นควรเลือก รองเท้าเดินป่า ที่ระบายอากาศได้ดีเป็นหลักแต่ถ้าอากาศเย็น หรือหนาวจัดควรเลือกรองเท้าที่กันน้ำได้ดี หรือมีฉนวนกันความร้อนก็จะช่วยให้เท้าของคุณปลอดภัย และรู้สึกสบายตลอดทั้งเส้นทาง
3. เลือกจากดีไซน์ของรองเท้า
ร้องเท้าเดินป่าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีหลายดีไซน์และหลายประเภทให้เลือก เช่น แบบหุ้มข้อเท้าต่ำ, แบบหุ้มข้อเท้าปานกลาง, แบบหุ้มข้อเท้าสูง และแบบรองเท้าแตะสาน ซึ่งแต่ระแบบก็จะมีความสามารถระในการซับพอร์ตเท้าและข้อเท้าของเราที่ต่างกันออกไป รวมไปถึงเหมาะกับการใช้ในระยะทางการเดินที่ต่างกันออกไปด้วย ถ้าทริปนี้มีแพลนกางนอนด้วย ลองดู เต็นท์สนามเดินป่า ที่กันฝนดี น้ำหนักเบา จะช่วยให้รองเท้าไม่ชื้นระหว่างคืนฝนตก
4. เลือกรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี
การเดินป่าจะทำให้เท้าของเรามีเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งในบ้างเส้นทางยังจะต้องเจอกับเส้นทางที่มีน้ำ และความชื้นที่สูง ดังนั้นจึงความเลือกรองเท้าที่ผลิตจากวัสดุที่ระบายอากาศ ช่วยลดความชื้น และป้องกันน้ำได้ดี
5. เลือกรองเท้าที่เหมาะกับสรีระของเท้า
10 ปากว่ามาเท่าตาเห็น รองเท้าจะดีหรือไม่อย่าเชื่อคนอื่นมากเกินไปจนกว่าที่เราจะได้ลองสวมใส ลองใสเดิน ใส่วิ่งลองดูเสียก่อน เพราะคนเราจะมีทั้งรูปเท้าและสรีระร่างกายต่างกัน รองเท้าที่ดีควรจะต้องเข้ากับรูปเท้าของเราได้เป็นอย่างดี ใส่เดินแล้วความไม่มีอาการที่ไม่พึ่งประสงค์ต่าง ๆ ตามมา เช่น อาการปวดเข่า, เจ็บหมาเท้า, ปวดหลังหรือเจ็บเล็บเท้า เป็นต้น
จัดอันดับ 10 รองเท้าเดินป่ายี่ห้อไหนดี ที่คุณควรมีติดไว้สักคู่ ดีไซน์สวย ใส่สบาย ตอบโจทย์สายเดินป่าทุกคนอย่างแน่นอน
มาแล้วค่ะสำหรับ 10 อันดับ รองเท้าเดินป่ายี่ห้อไหนดีมีใครกำลังเล็ง ๆ รุ่นไหนอยู่แล้วยังตัดสินใจไม่ได้บ้างไหมค่ะ ดังนั้นวันนี้เราได้ไปรวมรวมรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับรองเท้าแต่ละรุ่นมาให้ทุกคนแล้ว ซึ่งบอกเลยว่าสวย จึ้ง ใส่สบาย ตอบโจทย์สายเดินป่าทุกคนอย่างแน่นอน และสำหรับ 10 รองเท้าเดินป่า ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่เรารวมมามีทั้งหมดดังนี้
1. Adidas Terrex Trailmaker 2.0 Gore-Tex
รองเท้าเดินป่า Terrex จาก Adidas ที่ด้านบนของรองเท้าเสริมด้วยเส้นนใย Gore-Tex จึงช่วยให้รองเท้าระบายอากาศได้ดี ป้องกันน้ำ ลดการอับชื้น ระบบผูกเชือกแบบ Speed Lacing จึงช่วยให้กระชับ สะดวกและโอบรับอุ้งเท้าได้เป็นอย่างดี พื้นรองผลิตด้วยยาง Continental จึงให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม และยิ่งไปกว่านั้น Terrex Trailmaker 2.0 Gore-Tex ยังเป็นรองเท้าเดินป่ารุ่นพิเศษที่ออกแบบร่วมกับ National Geographic อีกด้วย
- เสริมด้วยเส้นใย Gore-Tex
- ระบบผูกเชือก Speed Lacing
- มีรุ่นสำหรับผู้ชายและหญิง
- น้ำหนัก 380.5 กรัม (ไซส์ UK 8.5)
- พื้นรองเท้าสูง 10 มม.
- มีวัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิล 20%
- ราคา 5,000 บาท
2. COLUMBIA Peakfreak III Mid Outdry
รองเท้าเดินป่าผู้หญิง COLUMBIA Peakfreak III Mid Outdry ที่มาพร้อมน้ำหนักเบาเพียง 319 กรัม (ไซซ์ 5 UK) โดยตัวรองเท้าเป็นแบบหุ้มข้อเท้าปานกลาง พื้นรองเท้าแข็งแรง จึงช่วยให้เดินบนทางลาดชันได้ดี ที่สำคัญยังช่วยซับพอร์ตข้อเท้าได้ดีกว่าแบบหุ้มข้อต่ำอีกด้วย อัปเปอร์มีระบบ Navic Fit System จึงช่วยให้ล็อดช่วงกลางของรองเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี OutDry จึงช่วยป้องกันน้ำและระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
- ป้องกันน้ำและระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
- อัปเปอร์มีระบบ Navic Fit System
- รองเท้าสำหรับผู้หญิง
- Adapt Trax ยึดเกาะได้ดีทั้งสภาพแห้งและเปียก
- น้ำหนัก 319 กรัม (ไซซ์ 5 UK)
- ราคา 4,792 บาท
3. Keen Men’s NEWPORT H2
รองเท้าเดินป่า keen รองเท้าแตะแบบไฮบริดที่สามารถสวมใส่ลุยน้ำและเปิดป่าได้แบบสบาย ๆ และนับว่าเป็นรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นขวัญใจของนักเดินป่าเลยก็ว่าได้ เนื่องจากรองเท้าประเภทนี้สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี อีกทั้งยังมีพื้นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะอีกด้วย ดังนั้น Keen จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รองเท้าขวัญใจสายทำกิจกรรม Outdoor มาอย่างยาวนาน
สำหรับรุ่น NEWPORT H2 ออกแบบให้บริเวณหน้ารองเท้ามีความกว้าง จึงทำให้ไม่หนีบหน้าเท้า พื้นรองเท้าชั้นกลางทำจากโฟมเพื่อการรองรับแรงกระแทก พื้นรองเท้าด้านในทำจากโฟมที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก จึงทำให้สวมใส่สบายตลอดทั้งวัน ที่สำคัญพื้นรองเท้ายังมี Eco Anti-Odor จึงช่วยขจัดกลิ่นเหงื่อโดยไม่ใช้สารเคมี
- รองเท้าแตะแบบไฮบริด
- มีเทคโนโลยี Eco Anti-Odor
- ปรับเชือกให้กระชับเท้าได้ง่าย
- มีรุ่นสำหรับผู้หญิงและชาย
- น้ำหนัก 401 กรัม
- ราคา 4,323 บาท
4. Timberland Men’s Motion Access Mid Waterproof Hiking Boot
รองเท้าเดินป่าสำหรับผู้ชายแบบหุ้มข้อเท้าปานกลางจาก Timberland แบรนด์ผู้ผลิตรองเท้าและเครื่องแต่งกายจากสหรัฐอเมริกา โดยรุ่นนี้เป็นรองเท้าเดินป่าที่ทั้ง ทนทาน กันน้ำ และน้ำหนักเบา พร้อมสำหรับทุกสภาพอากาศและเส้นทางที่หลากหลาย
อัปเปอร์ของรองเท้าทำจากหนัง ด้านในทำจากผ้า ReBOTL ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Timberland ซึ่งทำจากขวด PET รีไซเคิล 50% รวมไปถึงยังมีทั้งเทคโนโลยีที่ช่วยในการยึดเกาะและระบายอากาศทำให้สวมใส่สบายตลอดทั้งเส้นทาง
- อัปเปอร์ทำจากหนังสุดพรีเมียมของ Timberland
- ใช้วัสดุจากขวด PET รีไซเคิล 50%
- รองเท้าเป็นแบบผู้เชือก
- กันน้ำได้
- รองเท้าสำหรับผู้ชาย
- ราคา 3,750 บาท
5. Salomon Shoes Quest 4 GTX
Salomon แบรนด์รองเท้าเดินป่า รองเท้าเดินเขาจากประเทศฝรั่งเศสที่นักเดินป่าต้องมีไว้ในครอบครองสักคู่ เพราะเขาจัดว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำและมีตำนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1947 และสำหรับรุ่น Shoes Quest 4 GTX แบบหุ้มข้อเท้าสูง (High Cut) สำหรับผู้ชายที่ผลิตด้วยเส้นใย GORE-TEX จึงทำให้กันน้ำและระบายอากาศได้ดี
พื้นรองเท้ารับน้ำหนักได้ดีจึงทำให้รองเท้าคู่นี้เหมาะกับการเดินในระยะไกล ๆ สภาพเส้นทางที่ยากลำบาก รวมไปถึงแม้ว่าคุณจะต้องแบกเป้หนักขนาดไหนก็ยังช่วยให้คุณก้าวเดินได้อย่างมั่นคง
- ผลิตด้วยเส้นใย GORE-TEX
- กันน้ำได้
- พื้นรองเท้าหนา 12 มม.
- ระบบร้อยเชือกแบบธรรมดา
- เหมาะกับการเดินป่าระยะไกล เส้นทางโหด ๆ
- ร้องเท้าสำหรับผู้ชาย
- น้ำหนัก 665 กรัม
- ราคา 9,490 บาท
6. Quechua NH500
รองเท้าแตะเดินป่าสำหรับผู้หญิง สามารถใส่เดินบนพื้นทราย หรือลุยน้ำได้สบาย ๆ เหมาะกับคนที่ชอบใส่รองเท้าแตะในการเดินป่า หรือหารองเท้าลำรองไว้เปลี่ยนหลังจากถึงที่หมายสุด ๆ สำหรับพื้นรองเท้าเดินป่า decathlon รุ่นนี้ผลิตด้วย EVA สองชั้นจึงช่วยซับแรงกระแทกได้ดี พื้นรองเท้าออกแบบมาเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ ที่สำคัญยังปรับรองเท้าให้กระชับกับเท้าได้ง่าย ๆ ด้วยตีนกุ๊กแก 2 จุด
- กันน้ำได้
- น้ำหนักเบาข้างละ 212 กรัม (ไซซ์ 39)
- รองเท้าแตะสำหรับผู้หญิง
- พื้นรองเท้าทำจาก EVA 2 ชั้น
- ราคา 1,000 บาท
7. The North Face M Hedgehog 3 WP
The North Face แบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ Outdoor สัญชาติอเมริกาที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966 ที่นอกจากจะได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานแล้ว ต้องบอกเลยสินค้าของเขามั่นใจในคุณภาพได้อย่างแน่นอน และสำหรับ The North Face M Hedgehog 3 WP – Khaki Stone เป็นรองเท้าเดินป่าสำหรับผู้ชาย ซึ่งนำรองเท้ารุ่นคลาสสิกจากแบรนด์มาปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น
อัปเปอร์ทำจากวัสดุหลายชนิดจนทำให้รองเท้าคู่นี้มีความหนา แข็งแรง ทนทาน และปกป้องนิ้วเท้าของเราได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญพื้นรองเท้าชั้นกลางทำจาก EVA ที่มีความยืดหยุ่นและสวมใส่สบาย รับแรงกดได้ดี พร้อมนวัตกรรมที่ทำให้เท้าแห้งระหว่างที่สวมใส่
- กันน้ำได้
- น้ำหนัก 431.1 กรัม
- รองเท้าสำหรับผู้ชาย
- พื้นรองเท้าด้านนอกผลิตจากยางธรรมชาติ 10%
- ราคา 5,551 บาท
8. Adidas Terrex Free Hiker GORE-TEX 2.0
รองเท้าเดินป่าสำหรับผู้หญิงที่รุ่นนี้พิเศษสุด ๆ เนื่องจาก Adidas เลือกใช้ยางพื้นรองเท้าจาก Continental แบรนด์ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี จึงทำให้ได้พื้นรองเท้าที่มีทั้งความแข็งแรง ทนทาน และยึดเกาะได้ดีสุด ๆ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิล แผ่น GORE-TEX พื้นชั้นกลาง BOOST
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Adidas และมีโครง EVA เสริมความมั่นคงและแถบหุ้มส้นรองเท้าด้านนอกด้วย รองเท้าคู่นี้จึงมีทั้งน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ที่สำคัญช่วยซัพพอร์ตและปกป้องเท้าของเราได้ตลอดทั้งเส้นทาง
- กันน้ำได้
- มีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิล 50%
- เสริมแผ่น GORE-TEX
- พื้นชั้นกลาง BOOST
- พื้นรองเท้าใช้ยางจาก Continental
- น้ำหนัก 378.5 กรัม (ไซส์ UK 5.5)
- ราคา 5,355 บาท
9. SALOMON X ULTRA 4 MID Gore Tex
รองเท้าเดินป่าสำหรับผู้หญิงแบบหุ้มข้อเท้าปานกลางที่ใช้วัสดุจากเส้นใย Gore Tex จึงทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา กันน้ำ ระบายอากาศและลดความชื้นได้ดี ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อสาว ๆ โดยเฉพาะดังนั้นจึงเป็นรองเท้าที่เหมาะกับสรีระของเท้าของผู้หญิงอย่างสมบูรณ์แบบ พื้นรองเท้าซับแรงได้ดี พื้นรองเท้าด้านนอกเป็นยางที่พัฒนามาให้ยึดเกาะได้ดี จึงเหมาะกับทุกสภาพเส้นทาง
- อัปเปอร์ทำมาจากหนังเคลือบ PU และผ้า
- รองเท้าสำหรับผู้หญิง
- กันน้ำได้
- ระบบผูกเชือกแบบธรรมดา
- น้ำหนัก 370 กรัม
- ราคา 7,790 บาท
10. Timberland Women’s Motion Access Mid Lace Up Waterproof Hiking Boot
รองเท้าเดินป่าผู้หญิงที่สวยสะดุดตาสุด ๆ ด้วยสีสันและดีไซน์ จนของยกคำว่า “จะมาเป็นรองเท้าเดินป่าเหมือนกันไม่ได้” ให้รองเท้ารุ่นนี้เลยทีเดียว โดยรองเท้ารุ่นนี้ผลิตด้วยวัสดุ ReBOTL ซึ่งเป็นเทคโนโลยี เฉพาะของ Timberland ที่จะประกอบด้วย PET รีไซเคิลอย่างน้อย 50% และตกตแงด้วยหนังคุณภาพ พรีเมียมของแบรนด์ เมมเบรนกันน้ำทำจากวัสดุรีไซเคิล ที่สำคัญพื้นรองเท้าทำจาก EVA ที่มีน้ำหนักเบาและทนทาน ช่วยลดแรงกระแทก และป้องกันการลื่นอีกด้วย
- อัปเปอร์ทำมาจากหนังพรีเมียม
- ใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบ
- กันน้ำได้
- รองเท้าสำหรับผู้หญิง
- รองเท้าแบบผูกเชือก
- ราคา 3,750 บาท
วิธีดูแลรักษารองเท้าเดินป่าให้คงสภาพดี ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลืองงบ
รองเท้าเดินป่าดี ๆ อยู่กับเราได้หลายปี ถ้าดูแลถูกวิธี เคล็ดลับคือ ทำความสะอาดทันทีหลังลุย, ทำให้แห้งอย่างถูกต้อง, เก็บในสภาพแวดล้อมเหมาะสม และบำรุงผิว/เคลือบกันน้ำเป็นระยะ ขั้นตอนด้านล่างนี้ทำตามได้เลย
ขั้นตอนการทำความสะอาดรองเท้าอย่างถูกวิธี
- เคาะ/ปัดคราบหยาบ – เคาะพื้นรองเท้า เอาดิน/กรวดออก ใช้แปรงขนนุ่มปัดร่องดอกยาง
- ถอดชิ้นส่วน – แยกเชือกและพื้นรองใน sole ออกมาล้าง/ตากแยก
- ล้างแบบอ่อนโยน – ผสมน้ำอุ่นกับสบู่อ่อน ๆ หรือคลีนเนอร์เฉพาะรองเท้า outdoor ใช้แปรงนุ่มถูเป็นวงเบา ๆ
- โฟกัสจุดเสี่ยง – ขอบกาว, รอยต่อ, ลิ้นรองเท้า และร่องดอกยาง (สิ่งสกปรกสะสมทำให้กาวเสื่อม)
- ล้างออกให้เกลี้ยง – เช็ด/ฉีดน้ำเบา ๆ ให้คราบสบู่ออกหมด (อย่าแช่น้ำนาน)
- บีบผ้า/ซับ – ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ซับน้ำส่วนเกิน ก่อนเข้าขั้นตอนการตาก
ทริคเล็กน้อย
- ผ้า Mesh/สังเคราะห์ → ทำความสะอาดง่าย ระวังขัดแรงเกินไปทำให้เป็นขุย
- หนังแท้/นูบัค/หนังกลับ → ใช้แปรงเฉพาะและคลีนเนอร์สูตรหนัง หลีกเลี่ยงน้ำเยอะ
- รองเท้ากันน้ำ (เมมเบรนเช่น Gore‑Tex) → ใช้คลีนเนอร์ที่ไม่ทิ้งสารตกค้าง เพื่อคงประสิทธิภาพการกันน้ำ/ระบายไอ
ข้อควรระวัง: ซักเครื่อง, น้ำร้อนจัด, สารฟอกขาว – ทำให้กาวเสื่อมและวัสดุกรอบ
วิธีตากเพื่อทำให้รองเท้าแห้งโดยไม่ทำลายวัสดุ
ข้อควรทำ
- ถอดพื้นรองในและเชือก ออกมาตากแยก จะช่วยแห้งไวและไม่อับ
- ตากในที่ร่ม อากาศถ่ายเท ใช้พัดลมช่วยได้
- ยัดกระดาษหนังสือพิมพ์/ซิลิกาเจล ไว้ด้านใน แล้วเปลี่ยนเมื่อชื้น
- รอให้แห้งสนิทจริง ๆ ก่อนเก็บหรือเคลือบสเปรย์กันน้ำ
ข้อห้ามทำ
- แดดแรงจัด/วางหน้ากองไฟ/ใช้ไดร์ความร้อนสูง → ทำให้หนังแตก กาวพอง เมมเบรนเสีย
- อบในรถหรือห้องทึบชื้น → เชื้อรา/กลิ่นอับมาแน่
เทคนิคการเก็บรักษาให้คงสภาพดี
- พื้นที่เก็บ: แห้ง อากาศถ่ายเท ดีที่สุดคืออุณหภูมิห้องหลบแดด ความชื้นไม่สูง
- อุปกรณ์เสริม: ใช้ Shoe Tree/ตัวดันทรง รักษาทรงรองเท้า ลดย่น/พับ
- ถุงผ้าระบายอากาศ: ดีกว่าถุงพลาสติก (ไม่กักความชื้น)
- ดีท็อกซ์กลิ่น: เบคกิ้งโซดาซองเล็ก/ถ่านดูดกลิ่น ใส่ไว้หลังกลับทริป
- สลับใช้งาน: ถ้าไปถี่ ๆ มี 2 คู่สลับ จะยืดอายุทุกคู่
บทส่งท้าย
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับ 10 รองเท้าเดินป่ายี่ห้อไหนดี ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดเด่นและเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ที่ต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่เรียกว่าเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในรองเท้าเดินป่าทุกรุ่นเลยคือ รองเท้าเดินป่า ลุยน้ำ ที่สามารถกันน้ำได้ ระบายอากาศได้ดี ที่สำคัญคือช่วยปกป้องเท้าของเราจากสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ดังนั้นหากเพื่อน ๆ ชอบรุ่นไหนเป็นพิเศษก็สามารถกดเข้าไปสั่งซื้อที่เราปักลิงค์ไว้ให้ได้เลย
คำถามที่พบบ่อย
A1: รองเท้าวิ่งเน้นเบาและยืดหยุ่น แต่รองเท้าเดินป่าจะมีโครงสร้างแข็งแรง ดอกยางลึก กันลื่น และช่วยปกป้องข้อเท้ากับฝ่าเท้าได้ดีกว่าเมื่อเดินบนเส้นทางขรุขระ
A2: ถ้าเพิ่งเริ่มต้นควรเลือกแบบหุ้มข้อเตี้ยหรือกลาง ที่ใส่สบาย น้ำหนักไม่มาก และมีการระบายอากาศดี เหมาะกับเส้นทางทั่วไปที่ไม่โหดจนเกินไป
A3: ไม่จำเป็นเสมอไป หากเดินป่าในเส้นทางชื้นหรือหน้าฝน ควรเลือกแบบกันน้ำ (Waterproof) แต่ถ้าเป็นเส้นทางแห้ง เลือกแบบระบายอากาศจะสบายกว่า
A4: โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2–5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพการผลิต ความถี่ในการใช้งาน และการดูแลรักษา หากพื้นรองเท้าเริ่มสึกมาก ควรเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย
A5: ได้ เช่น เดินเขา แคมป์ปิ้ง หรือแม้แต่ทริปท่องเที่ยวที่ต้องเจอพื้นขรุขระ เพราะช่วยลดโอกาสลื่นและปกป้องเท้าได้ดีกว่ารองเท้าธรรมดา
A6: หลังใช้งานควรทำความสะอาดสิ่งสกปรก ตากในที่ร่มให้แห้งสนิท และเก็บในที่อากาศถ่ายเท หากเป็นหนังควรทาน้ำยาดูแลเป็นระยะเพื่อยืดอายุการใช้งาน
A7: วัดช่วง บ่าย (เท้าบวมสุด) ยืนลงน้ำหนักเต็มทั้งสองเท้า วัดจาก ส้นถึงปลายนิ้วยาวสุด ของแต่ละเท้า ใช้ ค่าที่ยาวกว่า แล้วบวกเผื่อ 0.5–1.0 ซม. จากนั้นเทียบ ตารางไซซ์หน่วย CM ของแบรนด์ (แม่นกว่า US/EU)
A8: โดยทั่วไปเผื่อ 0.5–1.0 ซม. จากความยาวเท้าจริง เพื่อรองรับการบวมและการไถลปลายเท้าตอนลงเขา ถ้าใส่ถุงเท้าหนา/สองชั้น ให้เผื่อเพิ่มอีก ≈ 0.5 ซม.