สำหรับสาวกชาวแคมป์คนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟสดทำเอง ก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเครื่องบดกาแฟ ที่เป็นหนึ่งในอุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำคัญก็คือ เครื่องบดกาแฟมือหมุน ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ในการเลือกใช้งาน ก็จะเป็น ที่มีขั้นตอนการใช้งานไม่ซับซ้อน และใช้งานได้อย่างทันทีแบบไม่จำเป็นจะต้องเชื่อมต่อสายไฟให้ยุ่งยากในการใช้งานนั่นเอง
และวันนี้ BOYTRAVELLERS จึงได้ทำการรวบรวม 10 เครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี มาแนะนำ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยได้ใส่มาให้ในแต่ละอันดับได้เลย
- เลือกเครื่องบดกาแฟมือหมุนให้เข้ากับสไตล์แคมป์ของเรา
- ทริปจะราบรื่น ถ้าจับคู่ “เตา–แก๊ส–เครื่องบด” ให้ตรง
- ข้อดี–ข้อเสีย ของเครื่องบดกาแฟแบบ มือหมุน vs ไฟฟ้า
- คู่มือการเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนฉบับไว ๆ เข้าใจง่าย
- แนะนำสูตรตั้งต้นยอดฮิต (ปรับได้ตามรสนิยม)
- 10 เครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก พกพาสะดวก 2025
- เลือกอะไรดีภายใน 30 วิ
- สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน
- คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เลือกเครื่องบดกาแฟมือหมุนให้เข้ากับสไตล์แคมป์ของเรา
เวลาชงกาแฟนอกสถานที่ สิ่งที่กำหนดรสชัดที่สุดคือ เฟืองบดและความนิ่งตอนหมุน เฟืองสเตนเลสจะคมและคุมความละเอียดได้แม่นกว่า เหมาะกับสายจริงจังที่อยากได้รสใสและบาลานซ์ ส่วนเซรามิกน้ำหนักเบา ดูแลง่าย แต่คมช้าลงตามกาลเวลา ถ้าเน้นพกพาเบา ๆ ทำดริปง่าย ๆ ก็ยังตอบโจทย์อยู่
อีกจุดที่ห้ามพลาดคือระบบปรับความละเอียด (คลิก) เวลาออกทริปเราไม่มีเครื่องมือช่วยเทสเยอะ ๆ จึงควรเลือกตัวที่มีสเกลชัดและล็อกดี หมุนแล้วไม่คลายเอง ความสม่ำเสมอของผงบดจะมาตามโครงสร้าง: ถ้าตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งชิ้น ใช้แบริ่งคู่ และก้านจับยาวพอ จะหมุนลื่น ไม่สั่น ผงฝุ่นน้อย ทำให้รสชาติสะอาดขึ้นทันที
เรื่องขนาดกับน้ำหนักให้คิดจากจำนวนแก้วต่อรอบ ถ้าดื่มสองคนทุกเช้า รุ่นความจุราว 20–30 กรัมกำลังสบาย ใส่กระเป๋าไม่เกะกะ แต่ถ้าไปกันหลายคน เลือกความจุ 30–40 กรัมเพื่อลดรอบการบด ส่วนการจับคู่ “วิธีชง–เบอร์บด” ให้ยึดง่าย ๆ: เฟรนช์เพรสใช้หยาบสุด, ดริปใช้กลางถึงค่อนละเอียด, เอสเปรสโซแบบพกพาต้องละเอียดและปรับได้ถี่—ถ้าชอบเอสเปรสโซจริงจัง ควรขยับงบขึ้นเล็กน้อยเพื่อได้เฟืองและความนิ่งที่ไว้ใจได้
ทริปจะราบรื่น ถ้าจับคู่ “เตา–แก๊ส–เครื่องบด” ให้ตรง
เตาดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูหัวต่อและแรงไฟให้เข้ากับแก๊สที่หาได้ง่ายในทริปด้วย เลือกเตาที่คุมไฟนิ่ง มีบังลม แล้วใช้เครื่องบดที่ปรับละเอียดได้คงที่ คุณจะได้สกัดกาแฟเสถียรแม้ลมแรง หากยังไม่ชัวร์เรื่องแก๊สที่จะใช้ ลองดูหน้ารวม 10 อันดับแก๊สกระป๋องยี่ห้อไหนดี เพื่อเลือกกระป๋องให้เข้าคู่กับเตาที่มีอยู่ จากนั้นค่อยไล่ดู Top 10 เครื่องบดด้านล่างเพื่อประกบเซ็ตให้จบในหน้าเดียว
และถ้าแพลนจะไปคาเฟ่/จุดแคมป์หลายที่ในวันเดียว ไม่อยากขับเองให้เหนื่อย ให้มือโปรช่วยขับได้ที่ Toppattayataxi.com สะดวกกว่า จัดรูทให้ถึงตรงเวลา แถมขนของกาแฟได้ครบ ไม่ต้องย้ายของขึ้น–ลงบ่อย ๆ
ข้อดี–ข้อเสีย ของเครื่องบดกาแฟแบบ มือหมุน vs ไฟฟ้า
มือหมุน (Manual)
- ข้อดี: คุมงบ, เบา, ไม่ต้องใช้ไฟ, พกพาง่าย, ฟีลทำกาแฟสนุก
- ข้อเสีย: ใช้แรง/เวลา, ถ้าคลิกกว้าง/เฟืองไม่ดี ผงอาจไม่เสมอ
ไฟฟ้า (Electric)
- ข้อดี: เร็ว, สม่ำเสมอง่ายกว่าในรุ่นกลาง–สูง, สะดวกทำหลายแก้ว
- ข้อเสีย: หนัก/กินไฟ/แพงกว่า, ไม่เหมาะแคมป์เบา ๆ
สรุปแบบสั้น ออกทริป/เน้นฟีลพิถีพิถัน = มือหมุนกำลังดี, ทำหลายแก้วทุกเช้า = ไฟฟ้าอาจคุ้มกว่า
คู่มือการเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนฉบับไว ๆ เข้าใจง่าย
- เฟือง: สแตนเลสคม นิ่ง อายุใช้นาน / เซรามิกเบา ดูแลง่าย
- ความนิ่งตอนหมุน: โครงโลหะแน่น + แบริ่งคู่ + ก้านยาว = หมุนลื่น ผงฝุ่นน้อย
- ระบบคลิก/สเกล: เลขชัด ล็อกแน่น ไม่คลายเองระหว่างหมุน
- ความจุ & น้ำหนัก: 20–30 กรัมสำหรับ 1–2 แก้ว ถ้าไปกันหลายคนลอง 30–40 กรัม
- ดามมือ/การจับ: ทรงกระบอกจับถนัด มือไม่ล้า หากมียางกันลื่นยิ่งดี
แนะนำสูตรตั้งต้นยอดฮิต (ปรับได้ตามรสนิยม)
- V60 ดริป: ผง 15 g : น้ำ 240–255 ml (≈1:16–17) เทแบ่ง 3–4 ช่วง รวม 2:15–2:45 นาที
- AeroPress: ผง 15–17 g : น้ำ 180–220 ml (≈1:12–14) กดตอน 1:30–2:00
- French Press: ผง 18 g : น้ำ 270–300 ml (≈1:15–16) แช่ 4 นาที คนเบา ๆ ชงเสิร์ฟทันที
ใช้ช่วงเบอร์กว้าง ๆ ตั้งต้น: หยาบ (FP) / กลาง (V60) / ละเอียด (AeroPress เข้ม หรือเอสเพรสโซพกพา) แล้วไล่ละเอียดทีละคลิก
10 เครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก พกพาสะดวก 2025
1. TIMEMORE CHESTNUT X COFFEE GRINDER
แบรนด์ของสินค้า: | Timemore (ไทม์มอร์) รุ่น Chestnut X |
ปริมาณความจุ: | บรรจุกาแฟได้ถึง 30 กรัม |
ราคาโดยประมาณ: | 5,950 – 7,450 บาท |
วัสดุ: | เฟืองสแตนเลสเกรด 440 (เป็นสแตนเลสปลอดสนิม เกรดเดียวกับเครื่องมือผ่าตัด) |
ระยะเวลาการรับประกัน: | รับประกัน 12 เดือน (เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทันทีภายใน 14 วัน) |
เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน ดีไซน์การออกแบบสุดหรูหราล้ำสมัย และปรับระดับความละเอียดในการบดเมล็ดกาแฟได้มากถึง 120 ระดับ น้ำหนัก 760 กรัม ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ใน ระดับยอดเยี่ยม จากประสิทธิภาพการทำงานของตัวอุปกรณ์ ที่ถูกผลิตออกมาให้ใช้งานได้อย่างกหลากหลาย
รูปลักษณ์และดีไซน์การออกแบบ ก็เรียกได้ว่ามีความหรูหราสวยงามเป็นอย่างมาก จากการใช้งานวัสดุแบบ Aluminum Alloy คุณภาพยอดเยี่ยมในการผลิตสินค้า
2. TIMEMORE G1 PLUS
แบรนด์ของสินค้า: | Timemore (ไทม์มอร์) รุ่น G1 Plus |
ปริมาณความจุ: | บดกาแฟได้ครั้งละ 30 กรัม |
ราคาโดยประมาณ: | 4,650 บาท |
วัสดุ: | วัสดุทำจากโลหะและไม้ Walnut ธรรมชาติ |
ระยะเวลาการรับประกัน: | รับประกัน 12 เดือน (เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทันทีภายใน 14 วัน) |
เครื่องบดกาแฟมือเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานสองแบบ ทั้ง Pour Over และ Espresso ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบสุดคลาสสิก Body ทำจาก Aluminum Alloy เบาแต่แข็งแรง และบดเมล็ดกาแฟพร้อมกันได้สูงสุดถึง 30 กรัมต่อหนึ่งรอบการใช้งาน น้ำหนักเบา พกพาสะดวก น้ำหนักตัวเครื่องบดกาแฟ 560 กรัม
ในส่วนของความสามารถในการปรับระดับความหยาบและความละเอียดในการบดกาแฟนั้น เรียกได้ว่าค่อนข้างมีความหลากหลาย และตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายสถานการณ์ได้ดีอยู่พอสมควร นอกจากนี้ด้วยโครงสร้างภายในที่ถูกผลิตออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ทำให้การทำงานของตัวสินค้าทำได้ดีเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน
3. TIMEMORE S3 ALL NEW
แบรนด์ของสินค้า: | Timemore (ไทม์มอร์) รุ่น S3 All New |
ปริมาณความจุ: | บรรจุกาแฟได้ถึง 25 กรัม |
ราคาโดยประมาณ: | 4,550 บาท |
วัสดุ: | วัสดุตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพสูง แข็งแรง ทนทานและมีน้ำหนักเบา ทำให้พกพาได้สะดวก |
ระยะเวลาการรับประกัน: | รับประกัน 12 เดือน (เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทันทีภายใน 14 วัน) |
เครื่องบดกาแฟมือหมุน Timemore S3 All New เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจากรุ่นก่อนของ Timemore ซึ่งมาพร้อมเฟืองรุ่นใหม่ S2C890 ขนาด 42 มม. ที่ช่วยดึงรสชาติของกาแฟได้เต็มทุกจุด เฟืองบดถูกออกแบบให้บดได้ละเอียดและสม่ำเสมอ ทำให้บดเมล็ดกาแฟได้นิ่งและแม่นยำ
เหมาะสำหรับการชงกาแฟที่ต้องการความเข้มข้นในรสชาติ Timemore S3 สามารถปรับระดับความละเอียดได้ เพื่อรองรับการชงกาแฟหลากหลายรูปแบบ เช่น เอสเพรสโซ, ดริปหรือเฟรนช์เพรส
4. BIALETTI MACINACAFFE
แบรนด์ของสินค้า: | BIALETTI Macinacaffe |
ประเทศต้นกำเนิดสินค้า: | อิตาลี |
ราคาโดยประมาณ: | 1,450 บาท |
วัสดุ: | PP, Stianless Steel, เซรามิค, ซิลิโคน |
น้ำหนัก | 1 กก. |
เครื่องบดกาแฟมือหมุน แบรนด์ที่เป็นที่นิยม ที่คอกาแฟรู้จักกันดี ตัวเครื่องใบเฟืองบดเป็นเซรามิก ปรับความหยาบละเอียดได้ ใช้งานง่าย ตัวเครื่องภายนอกเป็นพลาสติก PP คุณภาพดี
ฝาปิดอุปกรณ์เป็นซิลิโคน สามารถยึดติดกับตัวเครื่อง และเปิดออกเพื่อใส่เมล็ดกาแฟ โดยไม่ต้องถอดออกให้ยุ่งยาก เห็นแบบนี้สามารถบดเมล็ดกาแฟได้ตั้งแต่ 1-6 ถ้วย ได้เลยนะ และสามารถถอดล้างทำความสะอาดที่ใส่ผงกาแฟได้
5. ARIO X HARIO รุ่น SMART (MSG-2-T)
แบรนด์ของสินค้า: | ARIO x HARIO รุ่น Smart (MSG-2-T) |
ขนาด: | ขนาด 150 × 53 × 190 มม. |
ราคาโดยประมาณ: | 1,650 บาท |
วัสดุ: | PP, Stianless Steel, เซรามิค, ซิลิโคน |
น้ำหนัก | น้ำหนักสินค้าประมาณ 300 กรัม |
เครื่องบดกาแฟมือหมุน HARIO Smart G (แท้จากญี่ปุ่น) ที่ตัวของฟันบดเฟืองทำจากเซรามิก ด้ามจับเป็นสเตนเลส แข็งเเรง ทนทาน ตัวเครื่องเป็นพลาสติก รูปทรงทันสมัย สวยงาม ใสโปร่งแสง มองเห็นเมล็ดกาแฟด้านใน ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
มีช่องสำหรับจับเก็บด้ามมือหมุนด้านข้าง มีขีดบอกที่ด้านข้าง ปรับการบดง่าย ปรับใบมีดได้หลายระดับทั้งแบบหยาบและละเอียด แต่ควรระวังเพราะไม่เหมาะกับการบดเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน ที่เมล็ด เหนียว และแข็งเกินไป
6. MOHO รุ่น ST38
แบรนด์ของสินค้า: | MOHO รุ่น ST38 titanium plated |
ราคาโดยประมาณ: | 1,990 บาท |
วัสดุ: | ที่บดกาแฟเฟืองทำด้วยสแตนเลสด้วยเครื่อง CNC มีความแม่นยำสูง บอดี้ทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ |
ระยะเวลาประกัน | 12 เดือน |
Moho เครื่องบดกาแฟ ที่ทำจากสแตนเลสเคลือบไทเทเนียม ลดการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งาน ตัวเครื่องทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์แบบ 3 ช่อง เพิ่มความแข็งแรงด้วยลูกปืน 2 ตัวยึดด้านบนและด้านล่าง สามารถบดกาแฟได้ครั้งละ 20-25 กรัม และบดได้ไม่เปลืองแรง มีจุดปรับระดับการบดด้วยการหมุน และมีคำแนะนำที่ถึงจะเป็น มือใหม่หัดก็ทำได้
7. KINGRINDER รุ่น K2 (RK)
แบรนด์ของสินค้า: | MOHO รุ่น Kingrinder รุ่น K2 |
ราคาโดยประมาณ: | 2,250 บาท |
วัสดุ: | บอดี้ทำจากอลูมิเนียม ฝาปิดเมล็ดทำจากพลาสติก ที่จับมือทำด้วยไม้แท้ |
ระยะเวลาประกัน | 1 ปี |
Kingrinder K2 เป็นเครื่องบดกาแฟที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ เครื่องบดกาแฟมือหมุน ขนาด 48 มม. ที่เห็นแบบนี้แต่สามารถบดกาแฟได้ตั้งแต่แบบ Pour Over จนถึง Espresso โดยจะสามารถบรรจุเมล็ดกาแฟได้ครั้งละ 30 กรัม
ตัวเครื่องด้านนอกทำจากอลูมิเนียม ฝาปิดทำด้วยพลาสติก ปลายด้ามจับทำเป็นไม้แท้ ดีไซน์สวยเก๋ จับกระชับ ถนัดมือ Kingrinder K2 ถือว่าเป็นเครื่องบดกาแฟรุ่นที่คุ้มค่าในราคาประหยัด โดยให้คุณภาพการบดกาแฟที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นจนถึงระดับกลาง
8. PORLEX COFFEE GRINDER CERAMIC II
แบรนด์ของสินค้า: | PORLEX COFFEE GRINDER CERAMIC II |
ราคาโดยประมาณ: | 2,490 บาท |
วัสดุ: | เครื่องบดเมล็ดกาแฟ ใบมีดเซรามิก บอดี้ทำจากสแตนเลส |
ระยะเวลาประกัน | 12 เดือน |
เครื่องบดกาแฟมือหมุน MADE IN JAPAN ที่มีใบมีดเซรามิก บดเร็ว และสม่ำเสมอ ปรับความละเอียดได้หลายระดับตั้งแต่หยาบไปจนถึงละเอียดมาก ไม่ดูดซับน้ำและกลิ่น รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องคราบสนิม ความจุโดยประมาณ 25 กรัม ดีไซน์เพรียวบาง เรียบง่าย ด้ามหมุนถอดออกได้ พกพาสะดวก และทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะในการใช้บดเมล็ดกาแฟสำหรับทำกาแฟ FILTER
9. TIMEMORE SLIM PLUS COFFEE GRINDER
แบรนด์ของสินค้า: | TIMEMORE SLIM PLUS Coffee Grinder |
ราคาโดยประมาณ: | 3,000 บาท |
วัสดุ: | มีดบด Conical 38 mm. ทำจาก Hardened Stainless Steel บอดี้ทำจากอลูมิเนียม น้ำหนักเบา แต่แข็งแรง ส่วนด้ามจับเป็นไม้แท้ |
ระยะเวลาประกัน | ประกัน 1 ปี |
เครื่องบดกาแฟมือหมุน ไทม์มอร์ สลิม พลัส รุ่นใหม่ล่าสุด ดีไซน์เฟืองแบบใหม่ ร่องลึกและหนา พร้อมเงี่ยงช่วยล็อคเมล็ด ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบดตัดที่เร็วขึ้น เบาแรงขึ้น ทำให้บดได้ลื่นมือ และขนาดของกาแฟบดเสมอกัน สามารถปรับระดับความหยาบของเมล็ดกาแฟได้ บดกาแฟได้ครั้งละ 20 กรัม
เหมาะสำหรับการใช้งานทั้ง 2 แบบ ทั้ง Pour Over และ Espresso รูปทรงดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ตัวเครื่องทำจากโลหะและไม้วอลนัทตามธรรมชาติ เฟืองมีดใบบดทำจากเหล็กสเตนเลส ที่แข็งแรงและมีอายุการใช้งานนานกว่าสเตนเลสทั่วไป
10. 1ZPRESSO รุ่น Q2 COFFEE HAND GRINDER
แบรนด์ของสินค้า: | 1ZPresso Q2 Coffee Hand Grinder |
ราคาโดยประมาณ: | 3,000 บาท |
วัสดุ: | ฟันบด Pentagonal (5แฉก) ขนาด 38 mm. เฟืองบดผลิตจากสแตนเลสเกรด 420 ที่มีความแข็ง ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ตัวเครื่องผลิตจาก Aluminum alloy ช่วยให้น้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรง |
ระยะเวลาประกัน | 1 ปี |
1Zpresso Q2 เครื่องบดกาแฟมือหมุน Coffee Hand Grinder ตัวเล็กกระทัดรัด ขนาดไซส์มินิ น้ำหนักเบาเพียง 385 กรัม จะพกพาไปนอกสถานที่ท่องเที่ยว แคมปิ้ง เดินป่า จะที่ไหนก็สะดวกสบาย 1Zpresso Q2 เครื่องบดกาแฟมือหมุนที่มาพร้อมฟันบด Pentagonal (5แฉก) ขนาด 38 mm. ทำให้บดกาแฟได้เร็ว ในระยะเวลาเพียง 22-30 วินาทีเท่านั้น
สำหรับการบดกาแฟ 15 กรัม และบดละเอียดสำหรับทำเอสเพรสโซ่ได้ในระเวลาประมาณเพียง 1 นาทีเท่านั้น เหมาะกับการบดทั้งแบบ Espresso และแบบ Slow Bar เช่น Drip, Aeropress, Syphon, French Press ให้กาแฟมีกลิ่นที่หอม เข้มข้น เต็มรสชาติ
โถบรรจุกาแฟได้ 30-35 กรัม ปลายด้ามจับเป็นงานไม้แท้ ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ ดีไซน์หรู จับถนัดมือ ตอบโจทย์คอกาแฟที่กำลังมองเครื่องบดแบบมือหมุนสำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
เลือกอะไรดีภายใน 30 วิ
- พกพาเบาสุด → รุ่นไซซ์มินิ (เช่นตระกูล Q-size)
- คุ้มงบเริ่มต้น → รุ่นเฟืองสแตนเลส ขนาด 38–40 มม.
- จริงจังเอสเพรสโซ → เฟืองใหญ่ขึ้น + คลิกละเอียดถี่
- ลุยแคมป์ลมแรง → โครงโลหะแน่น + แบริ่งคู่ + ก้านยาว
ลุยแคมป์/โรดทริป เครื่องบดกาแฟมือหมุน + เตาแก๊สปิกนิค + แก๊สกระป๋อง = พร้อมชงทุกที่
การทำความสะอาด & ดูแล
- เคาะผงตกค้างทุกครั้ง, เปิดล้างแห้งสัปดาห์ละครั้ง (ใช้แปรง/ลมเป่า)
- ลดไฟฟ้าสถิต: เขย่าก่อนเท, ใช้ RDT (ละอองน้ำ นิดเดียว แตะเมล็ดก่อนบด)
- เก็บให้แห้งสนิท, หลีกเลี่ยงความชื้น/ไอน้ำโดยตรง
ปัญหายอดฮิต & วิธีแก้
- หมุนฝืด/สะดุด → เช็กสกรูเฟือง/แบริ่ง, ทำความสะอาดผงติดคมเฟือง
- ผงฝุ่นเยอะ/รสขม → ลองหยาบขึ้น 1–2 คลิก, ปรับสัดส่วน–เวลา
- คลิกเพี้ยน → รีเซ็ตศูนย์ใหม่, จดใหม่ใน Cheat Sheet
- ดามมือหลวม → ใส่ยางกันลื่นหรือเปลี่ยนปุ่มจับที่ใหญ่ขึ้น
สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน
คอกาแฟสาย Camping ที่กำลังคิดว่า เครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี คงจะได้จุใจกับตัวอย่างแบรนด์เครื่องบดกาแฟมือหมุน ที่เรานำมาฝากกันแล้ว ลองนำไปปรับใช้ดูเพื่อให้ได้เครื่องบดเมล็ดกาแฟที่ได้คุณภาพและตรงตามความต้องการที่สุด และเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปครั้งหน้าจะได้เตรียมใส่กระเป๋าไปด้วยไว้ดื่มกาแฟที่เป็นเฉพาะคุณกับบรรยากาศที่สุดฟิน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เริ่มกลาง ๆ สำหรับดริป แล้วปรับ ±1–2 คลิกตามรสที่ชอบ จดลง Cheat Sheet
สแตนเลสคม/นิ่ง/อายุใช้นานกว่า, เซรามิกเบา ดูแลง่าย เลือกตามสไตล์
บดละเอียดไป/น้ำร้อนเกิน/เวลาไหลนานไป ลองหยาบขึ้น ลดอุณหภูมิ หรือลดเวลาสกัด
ดื่ม 1–2 แก้ว/รอบ = 20–30 g พอ หลายคน = 30–40 g ลดการบดหลายรอบ
เคาะทุกครั้งที่ใช้, เปิดทำความสะอาดลึกสัปดาห์ละครั้ง/เมื่อเปลี่ยนเมล็ด