27 เส้นทางเดินป่า ทั่วไทย 4 ภาค ที่นักเดินป่าต้องพิชิตให้ได้สักครั้งในชีวิต

เดินป่า เป็นหนึ่งในกิจกรรมกลางแจ้งยอดฮิตในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าหลายคนหันไปเดินป่ากันมาก เพราะอย่างที่เขาพูดกันว่า “ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า” เวลาเหนื่อย ๆ หลายคนจึงเลือกไปเดินป่ากันไง อ่ะ…ล้อเล่น ๆ จริง ๆ แล้วจุดประสงค์หลัก ๆ ของการเดินป่าก็คือการเข้าไปสำรวจธรรมชาติแบบใกล้ชิด เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ได้สัมผัสกับป่าไม้แบบดิบ ๆ แถมยังมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าอีกด้วย เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ เอาล่ะ…มาถึงตรงนี้เราไม่ขอพูดพร่ำทำเพลง วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับกิจกรรมเดินป่า พร้อมชี้พิกัดเดินป่าทั้งเหนือ อีสาน กลาง และใต้ มาดูกันว่ามีที่ไหนน่าแวะไปบ้าง

เดินป่า คืออะไร

เดินป่า คือ กิจกรรมกลางแจ้งอย่างหนึ่งที่ผู้หลงใหลในธรรมชาติมักจะเดินทางเข้าไปในป่าเพื่อสำรวจสิ่งต่าง ๆ โดยจะเดินไปตามเส้นทางที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเส้นทางนั้นจะไม่ซับซ้อนจนเกินไป แต่ถ้าเราพูดถึงนักเดินป่ามืออาชีพแล้วคงจะไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน เพราะด้วยความที่พวกเขาเริ่มมีความชำนาญในการ เดินป่า ก็เลยอยากจะท้าทายตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมด้วยการ เดินป่า บนเส้นทางที่สุดแสนจะยากลำบาก นอกจากการชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังเป็นการเข้าถึง ธรรมชาติ แบบดิบ ๆ ที่จะให้ประสบการณ์แตกต่างไปจากเดิมอีกด้วย

Trekking vs hiking ต่างกันยังไง

TrekkingHiking
เดินทางลำบาก เดินทางสบาย ๆ
ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานใช้เวลาเดินทางไม่นาน
สำหรับคนที่ชื่นชอบความท้าทาย อยากสำรวจผจญภัยสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ อยากเดินป่า ชมบรรยากาศ
ระยะทางอาจมากกว่า 10 กิโลเมตร ระยะทางสั้น ๆ ไม่ถึง 10 กิโลเมตร
ต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปให้ครบไม่จำเป็นต้องพกอุปกรณ์อะไรมากมาย
  • trekking คือ การ เดินป่า บนเส้นทางที่สุดแสนจะยากลำบาก อาจเป็นเส้นทางที่มีคนสำรวจมาแล้วหรือไม่ก็ได้ ส่วนใหญ่นักเดินป่ามืออาชีพเขาจะชอบความท้าทาย และต้องการสำรวจ ธรรมชาติ แบบเต็มรูปแบบ ก็เลยไม่ค่อยหวั่นที่จะเดินป่าบนเส้นทางที่มีความสมบุกสมบันและอยู่นอกเหนือจากเส้นทางหลัก ถ้าพูดถึง ระยะทาง ก็ต้องบอกว่า 10 กม. ขึ้นไปเลยแหละ ซึ่งใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 2 วัน และไม่กำหนดด้วยว่าจะนอนที่ไหน พูดง่าย ๆ คือค่ำไหนนอนนั่น เช่นนี้เองการ เดินป่า TREKING จึงจำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปให้ครบ
  • hiking คือ การ เดินป่าระยะใกล้ ส่วนใหญ่จะเดินบนเส้นทางที่เจ้าหน้าที่เขาจัดเตรียมให้หรือผ่านการสำรวจมาแล้ว คือจะเป็นฟีลเดินสำรวจ ธรรมชาติ แบบเพลิน ๆ ระยะเวลาเดินเท้า ก็ไม่กี่ชั่วโมง เดินเสร็จแล้วก็กลับไปพักที่แคมป์หรือบ้านพักในอุทยาน ฯ อะไรทำนองนั้น หรือถ้ามีการค้างคืนก็จะค้างกันอย่างน้อย 1-2 คืนเท่านั้น การ เดินป่า แบบนี้ไม่จำเป็นต้องพกอุปกรณ์อะไรมากมาย หลัก ๆ ก็จะมีกระเป๋า เสื้อผ้าที่รัดกุม รองเท้า อาหาร ยารักษาโรคและน้ำดื่ม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนักเดินป่าทุกคนจะต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทางอยู่เสมอ

ข้อควรรู้ก่อนไป trekking สำหรับมือใหม่

  1. การเดินป่า Trekking ไม่ใช่การท่องเที่ยวที่ใคร ๆ จะไปก็ได้ เพราะเป็นการเดินเท้าในระยะไกล ซึ่งใช้เวลาในการเดินหลายวัน ส่วนใหญ่จะเดินบนป่าเขาที่มี ความสูง อยู่เหนือระดับน้ำทะเลมากพอสมควร แน่นอนว่าห้องนงห้องน้ำไม่มีแน่นอน แถมอาหารการกินก็ไม่ได้หรูหราด้วย ดังนั้นถ้าใครที่ชอบความสะดวกสบายก็จะไม่เหมาะเลยจริง ๆ ทั้งนี้คนที่ไปต้องแข็งแรงมาก ๆ ถ้าใครมีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัวไม่แนะนำให้ไปเด็ดขาด เพราะมันลำบากจริง ๆ
  2. ควรเลือก Route ระดับเริ่มต้น ไม่ยากเกินความสามารถของตัวเอง สำหรับนัก เดินป่า มือใหม่ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ แนะนำให้เลือก Route แบบง่าย ๆ ก่อน อย่าไปรีบข้ามขั้นเด็ดขาด ค่อยเป็นค่อยไปดีที่สุด ถึงจะอยากท้าทายตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่มีประสบการณ์และร่างกายยังไม่อึดพอก็ควรหลีกเลี่ยง Route ยาก ๆ แนะนำให้ลอง เดินป่าระยะใกล้ ในประเทศดูก่อน จากนั้นค่อยพัฒนา ระดับความยาก ขึ้นไปเรื่อย ๆ
  3. ศึกษาแผนการเดินทางให้ละเอียดและรอบคอบมากที่สุด ก่อนจะ เดินป่า TREKING สิ่งสำคัญที่มือใหม่และนักเดินป่าทุกคนต้องทำเลยก็คือศึกษาแผนการเดินทาง ขอย้ำเลยว่าต้องศึกษาให้ละเอียดและรอบคอบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิประเทศ สภาพอากาศ ระยะทาง เดินเท้า ความสูง และฤดูกาลที่เหมาะสม รวมไปถึงรายละเอียดการเดินทางในแต่ละวันด้วย
  4. ค่าใช้จ่ายรวมทริปค่อนข้างสูง โดยทั่วไปแล้วถ้าเรา trekking ในประเทศจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น แต่ถ้าเป็นต่างประเทศจะมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนเลยก็ว่าได้ โดยค่าใช้จ่ายนั้นจะรวมไปกับค่าอุปกรณ์ ค่าเดินทาง ค่าเข้าอุทยาน ฯ ค่ากางเต็นท์ ค่า ลูกหาบ ค่าอาหารและอื่น ๆ ทั้งนี้ราคาจะแพงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและเส้นทางการเดินป่าที่เราทำ การจอง เอาไว้

เดินป่าช่วงไหนดีสุด

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์อาจสงสัยว่า เดินป่า ในช่วงไหนดีที่สุด เอาจริง ๆ เราอยากจะบอกว่าแต่ละสถานที่จะไม่เหมือนกัน บางที่เหมาะกับการไปในฤดูหนาว บางที่เหมาะกับการไปในฤดูฝน ซึ่งอาจตอบไม่ได้ว่าช่วงไหนหรือ ฤดูท่องเที่ยว ไหนดีสุด มันขึ้นอยู่กับว่าเราไปที่ไหน สภาพแวดล้อมเป็นยังไง แต่ส่วนใหญ่เขาจะนิยม เดินป่า ในช่วงหน้าหนาวกัน เพราะหลาย ๆ พื้นที่เปิดให้ไปสำรวจในช่วงนี้กันค่อนข้างเยอะ นั่นคงเป็นเพราะว่าสภาพอากาศกำลังดี องค์ประกอบโดยรวมก็อำนวยด้วย แต่เรามาดูกันว่าในแต่ละช่วงแตกต่างกันยังไง

  • ฤดูร้อน ในประเทศไทยจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม แน่นอนว่าอากาศในช่วงนี้ร้อนอบอ้าวสุด ๆ ขนาดไม่ใช่หน้าร้อนยังร้อนไม่ไหว แล้วถ้าหน้าร้อนนักเดินป่าเขาจะไหวกันไหมเนี่ย!? แต่เอาจริง ๆ ข้อดีของการ เดินป่า ในช่วงนี้ คือ เราจะได้เห็นความสวยงามของ ธรรมชาติ ที่แตกต่างจากฤดูอื่น ๆ แถมยังสามารถคลายร้อนด้วยการเล่นน้ำตกได้อีกด้วย
  • ฤดูฝน ในประเทศไทยจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม ของทุกปี แน่นอนว่าถ้าฝนตกก็จะมาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำ ทางเดินก็จะเฉอะแฉะ ถ้าให้พูดตรง ๆ ก็ต้องบอกว่าช่วงนี้จะเดินทางได้ค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว แต่ข้อดีของการ เดินป่า ในช่วงนี้ คือ ต้นไม้ใบหญ้าจะมีสีเขียวขจี ดูสวยงามมากเป็นพิเศษ เพราะเวลาฝนตกจะทำให้ ธรรมชาติ อุดมสมบูรณ์ขึ้นนั่นเอง
  • ฤดูหนาว ในประเทศไทยจะอยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคม – กลางเดือนกุมภาพันธ์ อย่างที่บอกว่าส่วนใหญ่เขาจะนิยม เดินป่า กันในช่วงนี้ เราจะเห็นได้ว่าช่วงหน้าหนาวทริป เดินป่าระยะใกล้ และระยะไกลจะเยอะมาก นั่นเป็นเพราะว่าช่วงนี้มีอากาศเย็นสบาย แถมมีสายหมอกให้ชม เหมาะกับการไปสูดดมอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดมากทีเดียว ถ้าใครไม่รู้ว่าจะ เดินป่าที่ไหนดี ขอแนะนำภาคเหนือเลย 

เตรียมอุปกรณ์เดินป่า TREKING มือใหม่ต้องรู้

  1. กระเป๋าเป้ สำหรับ trekking ควรเลือกจากวัสดุที่มีคุณภาพ รองรับน้ำหนักได้ดี น้ำหนักเบาและพกพาได้สะดวก ก่อนตัดสินใจซื้อควรคำนึงด้วยว่าเราจะใส่อะไรไปบ้าง และน้ำหนักรวมจะหนักมากน้อยแค่ไหน
  2. เสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าที่เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่หนาจนเกินไป แนะนำให้เตรียมเสื้อแขนยาวไปด้วย เพราะเวลา เดินป่า มีโอกาสที่จะโดนกิ่งไม้ใบหญ้าขีดข่วนได้ง่าย และที่สำคัญอย่าลืมพกเสื้อกันฝนไปด้วยล่ะ
  3. รองเท้า ถุงเท้า รองเท้า เดินป่า ที่ดีควรมียางเหนียวที่พื้น สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีและต้องมีที่รองรับแรงกระแทกบริเวณข้อเท้า ที่สำคัญจะต้องกันน้ำได้ด้วย ส่วนถุงเท้าให้เลือกขนาดพอดี ใส่แล้วนุ่มสบาย ไม่ขาดง่าย
  4. ถุงนอน เต็นท์ ในกรณีที่ต้องค้างคืนในป่า ถุงนอนและเต็นท์เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ ควรเลือกจากวัสดุที่มีคุณภาพดี และเตรียมอุปกรณ์กางเต็นท์ไปให้พร้อม แนะนำให้เลือกแบบที่มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก กันน้ำและกันหนาวได้ดี ถ้ามีผ้ามุ้งเย็บติดไว้อีกชั้นหนึ่งก็จะเยี่ยมไปเลย เพราะจะช่วยกันยุงในป่าได้นั่นเอง
  5. แผนที่ และเข็มทิศ ถึงเราจะมีสมาร์ทโฟนที่ทันสมัยแค่ไหนก็ตาม แต่อย่าลืมว่าเรากำลังอยู่ในป่า แน่นอนว่าสัญญาณนั้นไม่มีแน่นอน ยิ่งถ้าเข้าไปในป่าลึกก็ยิ่งห่างหายจากสัญญาณ แบบนี้ไงเราจึงต้องพึ่งพาแผนที่และเข็มทิศ แต่ก่อนจะพกไปก็อย่าลืมฝึกดูและฝึกใช้ให้เป็นด้วยล่ะ
  6. ไฟฉาย อย่าลืมว่าตอนกลางคืนในป่านั้นจะไม่มีไฟส่องสว่าง จะมีก็เพียงแค่แสงสว่างจากดวงจันทร์ ซึ่งเอาจริง ๆ มันไม่เพียงพอที่จะทำให้เรามองเห็นทุกสิ่งได้หรอก ดังนั้นจึงควรพกไฟฉายไปด้วย เวลาออกเดินทางในตอนกลางคืนจะได้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  7. ไม้ค้ำยัน แน่นอนว่าการเดินทางไกลนั้นจำเป็นต้องมีไม้ค้ำยัน เพราะอุปกรณ์นี้จะช่วยพยุงเพื่อลดแรงกระแทกของหัวเข่าและข้อต่อได้ดี ทำให้การ เดินป่า ของเรานั้นง่ายขึ้น ทั้งนี้ก่อนจะซื้อต้องเช็คให้ดี ๆ ด้วยว่าวัสดุที่ใช้มีคุณภาพหรือเปล่า
  8. ชุดเครื่องครัว และกระบอกน้ำ การเดินทางไกลจำเป็นต้องพกสิ่งเหล่านี้ไปอยู่แล้ว เพราะคนเราต้องกินอาหารและดื่มน้ำเพื่อเติมพลังงานให้กับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเตาสนาม หม้อ ถ้วยชาม ช้อน และกระบอกน้ำ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไปให้พร้อม
  9. อุปกรณ์ปฐมพยาบาล และยารักษาโรคต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ อย่างที่รู้ ๆ กันว่าการ trekking จะใช้เวลานานหลายวัน เพราะฉะนั้นไม่ควรประมาท เดินทางไกลก็ต้องพกอุปกรณ์ฉุกเฉินไปด้วย เพราะจะช่วยให้เราอุ่นใจมากยิ่งขึ้น เวลามีอุบัติเหตุในขณะ เดินป่า ก็จะได้นำมาใช้ประโยชน์ได้ทันท่วงที 

สถานที่เดินป่า trekking ในไทย

รู้กันหรือไม่ว่าพิกัด เดินป่า ในไทยนั้นมีอยู่ทั่วทุกภาคเลย ไม่ว่าจะเป็นเหนือ อีสาน กลาง หรือใต้ ต่างมี ธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การไป trekking มากทีเดียว ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีอะไรบางอย่างที่เหมือนและไม่เหมือนกัน ทั้งนี้หากจะไปที่ไหนก็ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ รวมถึง ฤดูท่องเที่ยว และ ระดับความยาก ของการเดินทางด้วย มาดูกันว่าแต่ละภาคมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง 

เส้นทางเดินป่าภาคเหนือ

เตรียมตัวลิสต์กันไว้ได้เลย ใครที่กำลังหาเส้นทางออกทริปเดินป่าแล้วล่ะก็ เราจะมาแนะนำ 12 เส้นทางเดินป่าในแทบภาคเหนือ ให้คุณได้มาเตรียมตัวลุยกัน รับรองว่าวิวสวย บรรยากาศดี ฮีลใจได้ดีอย่างแน่นอน ถ้าหากใครสนใจก็ลองมาดูกันเลยว่าจะมีเส้นทางเดินป่าไหนน่าสนใจบ้าง

1. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่

นี่คือพิกัดแรกที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะยอดดอยที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเมืองไทย นั่นก็คือดอยผ้าห่มปกนั่นเอง จุดเช็กอิน ที่เป็นไฮไลท์ก็คือบน ยอดเขา ที่เต็มไปด้วยสายลมอันบริสุทธิ์ เหมาะกับการจัด ทริปเดินป่า ในช่วงหน้าหนาว แวะไปสำรวจธรรมชาติพร้อมขึ้นเขาไปชมทะเลหมอกแบบฟิน ๆ สำหรับ ระยะทาง ก็จะไม่ไกลมากนัก จุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นดอยจะอยู่ที่ลานกางเต็นท์กิ่วล

  • ความสูง : 2,285 เมตรระยะทาง : 3.5 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 2-3 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
  • ระดับความยาก : 2/5 (Hiking/Beginner Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เกือบตลอดทั้งปี (ปิดเดือนกรกฎาคม – กันยายน)
  • ช่องทางการติดต่อ : 084 483 4689, 052 080 801 หรือ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก – Doi Pha Hom Pok National Park 

2. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

ดอยหลวงเชียงดาว

ถ้าพูดถึงการ เดินป่า เชียงใหม่ ดอยหลวงเชียงดาวก็เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ผุดขึ้นมาในหัว เพราะถือเป็นอีกหนึ่ง ตำนาน ที่นักเดินป่าทั้งหลายต้องไปพิชิตให้ได้สักครั้ง ซึ่งยอดดอยที่นี่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย บอกเลยว่าวิวทิวทัศน์สวยงามมากจริง ๆ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจะนัดเราไปอบรมและชี้แจงเรื่องกฎระเบียบต่าง ๆ ก่อน จากนั้นเขาจะมอบถุงดำ ถุงปัสสาวะพกพา ให้เก็บไว้ใช้สำหรับขับถ่าย เส้นทางการเดินจะมีทั้งทางราบและทางชัน เมื่อไปถึงดอยหลวงเชียงดาวแล้วจะรู้สึกถึงความหนาวเย็นแบบสุดขั้วเลยแหละ 

  • ความสูง : 2,225 เมตร
  • ระยะทาง : 700 เมตร (นับจากจุดกางเต็นท์)
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 5-7 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
  • ระดับความยาก : 3/5 (Advanced Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนพฤศจิกายน – มกราคม
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 2561 4836, 0 2561 2947 หรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่

3. ดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่

ดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่

ดอยม่อนจอง นักเดินป่าต้องทำ การจอง แล้วแหละ ใครไม่อยากพลาดโอกาส เดินป่า เชียงใหม่ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศเย็นสบายก็เตรียมตัวไว้เลย และต้องบอกว่าทั้งมือใหม่และมืออาชีพต่างสามารถมาพิชิต ยอดเขา แห่งนี้ได้ แต่อย่าลืมพกเสื้อกันหนาวมาด้วยล่ะ เพราะข้างบนคือหนาวสุด ๆ โดยที่นี่จะมีเส้นทางเลียบสันเขาให้เราได้เดินทางไปเรื่อย ๆ และจะมีทางลาดชันพร้อมท้าทายความสามารถของเราอยู่บ้าง นอกจากนี้ยังมีวิวทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่และสวยงามให้ได้ชื่นชมกันอีกด้วย 

  • ความสูง : 1,925 เมตร
  • ระยะทาง : 4 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 2-3 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
  • ระดับความยาก : 2/5 (Hiking/Beginner Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
  • ช่องทางการติดต่อ : 092 559 7201 (สุธิดา), 095 256 0114 (อริสา), 09 2559 7201 (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย) หรือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดอยม่อนจอง – บ้านมูเซอ

4. ลังกาหลวง ลังกาน้อย จังหวัดเชียงราย

ลังกาหลวง ลังกาน้อย จังหวัดเชียงราย

ลังกาหลวง ลังกาน้อย ต่างรอคอยนักเดินป่าแวะมาหา ใครที่อยาก เดินป่า ในหน้าหนาวนี้เตรียมแพ็คกระเป๋ากันได้เลย นี่คือเส้นทางศึกษา ธรรมชาติ สุดโหดที่มีเพียงแค่นักเดินป่าระดับมืออาชีพเท่านั้นที่จะผ่านไปได้ ซึ่งจะประกอบด้วยยอดดอยลังกาหลวง ยอดดอยลังกาน้อย และยอดดอยผาโง้ม โดยทั้ง 3 ติดอันดับ 16 ยอดเขา ที่สูงที่สุดในประเทศไทย บอกเลยว่า ระดับความยาก นั้นเกือบยากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งด้านบนจะมีทั้งจุดชมวิวพระอาทิตย์ รวมถึงจุดตั้งแคมป์อยู่ด้วย 

  • ความสูง : 2,031 เมตร
  • ระยะทาง : 17 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3 วัน 2 คืน
  • ระดับความยาก : 4/5 (Difficult Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 5316 3364, 084 366 5213, 084 489 2173 หรือ อุทยานแห่งชาติขุนแจ – Khun Chae National Park 

5. ดอยหลวง ดอยหนอก จังหวัดพะเยา

ดอยหลวง ดอยหนอก จังหวัดพะเยา

ดอยหลวง ดอยหนอก ขอบอกว่าเป็นหนึ่งใน เส้นทางเดินป่าในประเทศไทย ที่น่าไปสุด ๆ โดยเฉพาะนักเดินป่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเนิ่นนาน แวะมาสัมผัส ความสูง ของยอดดอยที่นี่แล้วจะได้รับประสบการณ์แบบใหม่อย่างแน่นอน เพราะ ยอดเขา ที่นี่สูงถึง 1,694 เมตร แถมยังมาพร้อมกับความชันมากเกือบ 90 องศาอีกด้วย ซึ่งดอยหลวงนั้นไม่ได้อยู่ในเขตจังหวัดพะเยาเท่านั้น แต่จะครอบคลุมไปถึงจังหวัดเชียงราย พะเยา รวมถึงลำปาง ยิ่งไต่ระดับไปสูงแค่ไหนก็จะยิ่งหนาว ยิ่งมีหมอกปกคลุมมากขึ้นเท่านั้น

  • ความสูง : 1,694 เมตร
  • ระยะทาง : 7 กิโลเมตร (ขึ้นจากบ้านห้วยหม้อ ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา), 12 กิโลเมตร 
  • (ขึ้นจากบ้านปากบอก อำเภองาว จังหวัดลำปาง)
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 6 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
  • ระดับความยาก : 4/5 (Difficult Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนตุลาคม – กลางเดือนกุมภาพันธ์
  • ช่องทางการติดต่อ : 064 672 3452 (เจ้าหน้าที่), 064 672 3452 (คุณอนุชา) 

6. เปรโต๊ะลอซู ยอดมะม่วงสามหมื่น จังหวัดตาก

เปรโต๊ะลอซู ยอดมะม่วงสามหมื่น จังหวัดตาก

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู เป็นเส้นทาง เดินป่าหน้าฝน ชื่อดังที่น่าไปเที่ยวมาก ๆ แค่ได้ยินชื่อก็อยากไปแล้ว ยิ่งถ้าใครจะไปพิชิต ยอดเขา แล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ นอกจากจะได้ เดินป่า แล้ว เรายังจะได้เห็นน้ำตกที่ทั้งใหญ่และสูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย บอกเลยว่าทริปนี้คุ้มแสนคุ้ม นักเดินป่าสามารถเดินชม ธรรมชาติ ตามเทือกและลำธารได้แบบสบาย ๆ บอกเลยว่าบรรยากาศชุ่มฉ่ำและสดชื่นจริง ๆ 

  • ความสูง : 1,600 เมตร
  • ระยะทาง : จุดเดินไปแคมป์ ระยะทาง 5 กิโลเมตร, ยอดเขามะม่วงสามหมื่น (ไป-กลับ) ประมาณ 14 กิโลเมตร และน้ำตกเปรโต๊ะลอซู (ไป-กลับ) ประมาณ 4 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3 วัน 2 คืน
  • ระดับความยาก : 4/5 (Difficult Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนตุลาคม – ช่วงฤดูฝน
  • ช่องทางการติดต่อ : 081 813 9742 (คำสิงห์โฮมสเตย์ KamSingha Home Stay) 

7. ม่อนทูเล ม่อนคลุย จังหวัดตาก

ม่อนทูเล ม่อนคลุย จังหวัดตาก

ม่อนทูเล ม่อนคลุย เป็นเส้นทาง เดินป่า ในระดับกลาง ๆ คือมันไม่ง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะยากเกินไป สำหรับนักเดินป่าผู้มีประสบการณ์มาบ้างแล้วก็สามารถลองไปลุยที่นี่ได้ แต่ต้องมั่นใจด้วยว่าร่างกายคุณพร้อมลุยแบบขั้นสุด สำหรับจุดเริ่มต้นไปถึงม่อนคลุยหลวงจะอยู่ที่ 3 กิโลเมตร และต่อจากนั้นเดินไปที่จอวาเลอีก 5 กิโลเมตร ตามด้วยการลงเขาสุดแสนจะชันจากทูเลอีก 7 กิโลเมตร บอกเลยว่าไปถึงแล้วคุ้มจริง ๆ วิวปังมาก โดยเฉพาะวิวทะเลหมอกและวิวพระอาทิตย์ขึ้น-ตก อันนี้ขอยกนิ้วให้เลย 

  • ความสูง : 1,350 เมตร
  • ระยะทาง : จุดเดินเท้า – คลุยหลวง ประมาณ 4 กิโลเมตร, คลุยหลวง – กะหลี่ปู่ 2 กิโลเมตร, กะหลี่ปู่ – จอวาเล 4 กิโลเมตร, จอวาเล – ม่อนทูเล 4 กิโลเมตร และม่อนทูเล – จุดที่รถมารอรับ 7 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3 วัน 2 คืน
  • ระดับความยาก : 3/5 (Advanced Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนตุลาคม – มกราคม
  • ช่องทางการติดต่อ : 088 428 8790, 089 268 0116 หรือ ดอยทูเล

8. ดอยภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

ดอยภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

ถ้าพูดถึง ทริปเดินป่า ภาคเหนือ เชื่อเลยว่าหลายคนต้องนึกถึงที่นี่ ใครอยากจะแวะมาสูดดมอากาศอันบริสุทธิ์ในเขตป่าสงวน มาที่นี่แล้วจะติดใจ นอกจากน้ำตกภูสอยดาวแล้วยังมีน้ำตกสายทิพย์ที่ให้ความสดชื่น บรรยากาศคือดีจริง ๆ ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือทุ่งไม้ในป่าสน อันนี้ก็ดีไม่แพ้กัน ใครอยากได้รูปสวย ๆ ให้ฟีลอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ก็มาแชะภาพได้เลย ถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดใน ตำนาน ที่กลายเป็นภาพจำไปแล้ว ถ้าจะมาก็อย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อมและศึกษาวิธี การจอง ไว้ให้ดีด้วย 

  • ความสูง : 2,102 เมตร
  • ระยะทาง : 9.5 กิโลเมตร (นับจากจุดเริ่มเดิน)
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 8-10 ชั่วโมง (3 วัน 2 คืน)
  • ระดับความยาก : 3/5 (Advanced Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนพฤศจิกายน – มกราคม
  • ช่องทางการติดต่อ : 095 629 9528, 055 436 0012 หรือ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว – Phu soi dao National Park

9. ภูเมี่ยง จังหวัดอุตรดิตถ์

ภูเมี่ยง จังหวัดอุตรดิตถ์

ภูเมี่ยง เป็นเส้นทาง เดินป่าไทย ที่เหล่านักเดินป่ามากประสบการณ์ต่างต้องการจะพิชิตให้ได้สักครั้ง ที่นี่จะมี 8 เนิน 4 ผา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ ด้านบนสุดมีจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยอลังการ สำหรับสายลุย สายผจญภัยทั้งหลายต้องแวะมาเช็กลิสต์ให้ได้ ถ้าพูดถึง ยอดเขา ภูเมี่ยงก็ถือว่ามี ความสูง ในระดับปานกลางของเมืองไทย มาพร้อมกับเส้นทางอันน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมให้เหล่านักเดินป่าตัวพ่อตัวแม่ได้พิสูจน์ใจตัวเองว่าใหญ่มากแค่ไหน ขนาดไซส์ตัวนั้นไม่สำคัญ เพียงแค่ร่างกายอึดถึกทนก็จะผ่านไปได้อย่างแน่นอน 

  • ความสูง : 1,656 เมตร
  • ระยะทาง : 13 กิโลเมตร (ไป-กลับ)
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3 วัน 2 คืน
  • ระดับความยาก : 4/5 (Difficult Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนกรกฎาคม – มกราคม ของทุกปี
  • ช่องทางการติดต่อ : 064 554 6007 หรือ อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ – Ton Sak Yai National Park

10. อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล จังหวัดลำพูน

อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล จังหวัดลำพูน

อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล พร้อมมอบประสบการณ์การ เดินป่า ให้มือใหม่แบบไม่มีกั๊ก ที่นี่จะมีเส้นทางการเดินที่ไม่ซับซ้อนนัก ถ้าพูดถึง ระดับความยาก แล้วก็จะถูกจัดอยู่ในระดับง่าย เหมาะกับมือใหม่สุด ๆ สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟหรือรถยนต์ พอไปถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่มาดูแลและให้คำแนะนำ แน่นอนว่าความเป็นอุทยาน ฯ หากใครแวะมา เดินป่าหน้าฝน ก็จะต้องชุ่มฉ่ำแน่นอน นอกจากจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบายแล้ว ธรรมชาติ ยังอุดมสมบูรณ์มากอีกด้วย 

  • ความสูง : 1,373 เมตร
  • ระยะทาง : 7 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3-5 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
  • ระดับความยาก : 1/5 (Nature Trail)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
  • ช่องทางการติดต่อ : 08 1032 6341 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล), 08 1032 6341 (ติดต่อจองบ้านพักของอุทยาน ฯ) หรือ 08 6917 5225 (ติดต่อจองบ้านพัก/กางเต็นท์)

11. เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย

เขาหลวง สุโขทัย

เขาหลวง สุโขทัย ขึ้นชื่อว่าเป็นพิกัด เดินป่าหน้าฝน ที่ใคร ๆ ต้องแวะมา เพราะเส้นทางการ เดินป่า ไม่ค่อยซับซ้อน มี ระยะทาง เพียงแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น เอาสิ…รู้อย่างนี้แล้ว มือใหม่เตรียมแพ็คกระเป๋าเที่ยวกันได้เลย ที่นี่ถือเป็นเส้นทาง เดินป่าไทย ที่เต็มไปด้วยวิวเทือกเขา เหมาะกับทริป เดินป่าระยะใกล้ ในวันหยุด นอกจากวิวเทือกเขาแบบจุก ๆ แล้ว ยังมีวิวเมืองสุโขทัยแบบปัง ๆ พร้อมให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย หากใครมาใน ฤดูท่องเที่ยว ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศดี ๆ ไปอีกแบบ 

  • ความสูง : 1,200 เมตร
  • ระยะทาง : 3.7 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3-5 ชั่วโมง
  • ระดับความยาก : 2/5 (Hiking/Beginner Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนสิงหาคม – กุมภาพันธ์
  • ช่องทางการติดต่อ : 09 8883 9297 หรือ เขาหลวง สุโขทัย

12. โมโกจู จังหวัดกำแพงเพชร

โมโกจู จังหวัดกำแพงเพชร

โมโกจู อย่าให้รู้นะเธอจะมา ฮ่า ๆ ต้องบอกว่านี่คือ เส้นทางเดินป่าในประเทศไทย ที่เดินทางได้ยากมากที่สุดอีกหนึ่งแห่ง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร ถ้าพูดถึง ธรรมชาติ ของที่นี่แล้ว บอกเลยว่าอลังการสุด ๆ มันน่าไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ใครที่รักป่าเขาควรไปที่นี่มาก ๆ เพราะมันมีความอุดมสมบูรณ์เหลือเกิน พืชพรรณนานาชนิดดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ มองดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ยิ่งถ้าไปถึง จุดเช็กอิน แล้วล่ะก็ ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เตรียมยกกล้องมาแชะภาพเก็บไว้เลย

  • ความสูง: 1,950 เมตร
  • ระยะทาง : 64 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 5 วัน 4 คืน
  • ระดับความยาก : 5/5 (Extreme Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ของทุกปี
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 5576 6027 หรือ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ Mae Wong National Park 

เส้นทางเดินป่าภาคกลาง

วันหยุดนี้ ถ้าใครยังคิดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเดินทางไปที่ไหนดี เราอยากชวนทุกคนออกไปสำรวจธรรมชาติ พักผ่อนฮีลใจ หนีเข้าป่า กับ 6 เส้นทางเดินป่าภาคกลาง มีตั้งแต่เดินป่าแบบระยะสั้นๆ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร ไปจนถึงเดินป่าระยะทางไกลๆ แบบ 2 วัน 1 คืน มาฝากกัน ถ้าใครที่อยากหนีความวุ่นวาย อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้าง ก็ลองออกไปเที่ยวหรือลองไปเดินป่ากับเรากันเถอะ

1. เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผา

ถ้าพูดถึงเส้นทาง เดินป่า กาญจนบุรี แล้ว เขาช้างเผือกก็ถือเป็นตัวตึงใช่ย่อยเลย แน่นอนว่าใคร ๆ ก็รู้จัก ยิ่งในบรรดานักท่องเที่ยวสายลุยนี่ไม่ต้องพูดถึง ทุกคนต่างปรารถนาที่จะมาพิชิต ยอดเขา ที่นี่กันให้ได้ จะเห็นว่าบนเขาจะมีทุ่งหญ้าปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ และถ้ามองดี ๆ ก็จะเห็นว่าเขานั้นมีลักษณะคล้ายช้างหมอก ในฤดูร้อนทุ่งหญ้าบริเวณนั้นจะแห้งและมีสีขาวนวล ชาวบ้านก็เลยเรียกกันว่า “เขาช้างเผือก” จัดเป็นพิกัด เดินป่าระยะไกล ที่ไม่ง่ายและไม่ยากเกินไป ถ้าใครไม่รู้ว่าจะ เดินป่าที่ไหนดี แวะมาที่นี่กันเลย 

  • ความสูง : 1,249 เมตร
  • ระยะทาง : 8 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 6 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
  • ระดับความยาก : 2/5 (Hiking/Beginner Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนพฤศจิกายน – มกราคม
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 3451 0979 และ 09 8252 0359 (จองล่วงหน้า 7 วัน ครั้งละ 5 คน/1 กลุ่ม เวลา 08.30 – 16.30 น.) หรือ 09 5619 8981, 0 3454 7020 (อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ)

2. เขาสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี

เขาสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี

เขาสันหนอกวัว เป็นเส้นทาง เดินป่าเขาใหญ่ ยอดฮิตสำหรับสายลุย ระหว่างทางเต็มไปด้วย ธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ อย่างที่รู้ ๆ กันว่านี่คือ ยอดเขา สูงสุดในจังหวัดกาญจนบุรี เพราะฉะนั้นอาจไม่เหมาะกับมือใหม่สักเท่าไหร่ ต้องเป็นนักเดินป่าที่มีประสบการณ์มาพอสมควรแล้ว เพราะเส้นทาง เดินป่า กาญจนบุรี แห่งนี้มีความสมบุกสมบันอยู่ไม่น้อย แถม ระยะทาง ที่เขาเดินกันก็ถือว่าไกลพอสมควรด้วย 

  • ความสูง : 1,767 เมตร
  • ระยะทาง : 9 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 6 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
  • ระดับความยาก : 3/5 (Advanced Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 3451 0431, 08 5879 9047 หรือ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม – Khao Laem National Park

3. เขากำแพง อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

เขากำแพง กาญจนบุรี

เขากำแพง เป็นเส้นทาง เดินป่า ใกล้กรุงเทพ ที่เหล่านักเดินป่ามือใหม่ควรไปมาก ๆ เพราะเมื่อเทียบ ความสูง และองค์ประกอบต่าง ๆ แล้วยังเบากว่าที่อื่น เหมาะกับคนที่อยาก เดินป่าระยะใกล้ เพื่อสำรวจ ธรรมชาติ แบบใกล้ชิด เส้นทางการเดินก็ไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่ ในส่วนของวิวด้านบนก็สวยไม่แพ้ใคร พอขึ้นไปแล้วก็จะเห็นเทือกเขามากมาย คือพูดง่าย ๆ ว่ามองเห็นแบบไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว 

4. น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี

ใครกำลังหาพิกัด เดินป่า ใกล้กรุงเทพ น้ำตกเอราวัณเขาก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ บอกเลยว่านี่คือน้ำตกชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะมีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน แถมยังมีแอ่งน้ำสีเทอร์ควอยส์ที่เป็นไฮไลท์เด็ด นอกจากนี้ ธรรมชาติ โดยรอบก็สวยมาก ๆ ด้วย ถ้าใครอยากเดินป่าและแวะเล่นน้ำเพื่อคลายร้อนต้องมาที่นี่เลย สำหรับ ระยะทาง การเดินทั้งทริปจะขึ้นอยู่กับว่าเราอยากไปจบที่ตรงไหน แต่ขอกระซิบว่าน้ำตกชั้น 5 เป็นต้นไปจะเริ่มมีระยะที่ไกลขึ้นนะจ๊ะ 

  • ความสูง : 100 – 400 เมตร (น้ำตก 7 ชั้น)
  • ระยะทาง : 1.5 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 2 ชั่วโมง
  • ระดับความยาก : 1/5 (Nature Trail)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 3457 4288, 0 3457 4222, 0 3457 4234 หรือ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park

5. อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี

สถานที่เดินป่า ในอุดมคติของใครหลายคน เพราะไม่เพียงแค่จะได้ศึกษา ธรรมชาติ จากพืชพรรณเท่านั้น แต่ที่นี่ยังทำให้นักเดินป่าได้เปิดประสบการณ์การผจญภัยในป่าลึก เพื่อเข้าไปชมถ้ำนกนางแอ่นอีกด้วย ซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีธารน้ำใสไหลตลอดทั้งปี มือใหม่ที่อยาก เดินป่า กาญจนบุรี เพื่ออัพเลเวลให้กับตัวเองก็มาที่นี่ได้เลย รับรองว่าจะมีโอกาสได้เห็นทั้งพืชพรรณ ถ้ำสวย ๆ และ สัตว์ป่า ที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

  • ความสูง : 100 – 1,000 เมตร
  • ระยะทาง : 4 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 4 ชั่วโมง
  • ระดับความยาก : 2/5 (Hiking/Beginner Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
  • ช่องทางการติดต่อ : 08 4913 2381 หรือ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู – Lam Khlong Ngu National Park

6. ยอดเขาเทวดา อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี

ยอดเขาเทวดา

ยอดเขาเทวดา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ เดินป่า ใกล้กรุงเทพ ที่ไม่อยากให้พลาด เพราะตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นอุทยาน ฯ แห่งเดียวในจังหวัดที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน ผืนป่าที่นี่อุดมสมบูรณ์สุด ๆ ถ้าพูดถึง ระดับความยาก ของการเดินทางแล้วคือเบามาก ๆ ที่อื่นหนักกว่านี้เยอะ และแน่นอนว่ามันเป็นทางเลือกของนักเดินป่ามือใหม่อย่างเรา ๆ ที่จะต้องมาพิสูจน์ความแข็งแรงกัน มาที่นี่แล้วจะเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ซึ่งมาพร้อมกับความลาดชัน แต่ก็เดินได้ไม่ยากมาก ใครอยากมาก็อย่าลืมดูวิธี การจอง และเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยล่ะ 

  • ความสูง : 1,123 เมตร
  • ระยะทาง : 900 เมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 1.5 – 2 ชั่วโมง
  • ระดับความยาก : 1/5 (Nature Trail)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 3596 0240 หรือ อุทยานแห่งชาติพุเตย-Phutoei National Park

เส้นทางเดินป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เส้นทางเดินป่าภาคอีสาน ก็สวยไม่แพ้ภาคไหนๆ ถ้าใครอยากหา ที่เที่ยวหน้าฝน วันนี้เรารวมพิกัดสวยๆ ของอุทยานฯ ใน ภาคอีสาน มาให้ไปตามไปเที่ยวกัน กับ 3 เส้นทางเดินป่าภาคอีสาน ที่เที่ยวธรรมชาติ สุดปัง เหมาะสำหรับนักเดินป่ามือใหม่ ที่อยากเดินชมธรรมชาติ แบบไม่อยากลำบาก

1. น้ำตกผากล้วยไม้ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

น้ำตกผากล้วยไม้ เขาใหญ่

พิกัด เดินป่าเขาใหญ่ ที่ควรแวะมาสักครั้ง บอกเลยว่ามาที่นี่แล้วจะได้ความประทับใจกลับไปแน่นอน ถือเป็นเส้นทางศึกษา ธรรมชาติ ที่เดินไม่ยาก เหมาะกับการเดินในระยะสั้น เส้นทางส่วนใหญ่จะลาดซีเมนต์ ทำให้เดินได้แบบสบาย ๆ ชิล ๆ ซึ่งจะมีทั้งป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง พวก สัตว์ป่า ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง เมื่อเดินไปจนถึงน้ำตกผากล้วยไม้ บอกเลยว่าอัศจรรย์มาก ๆ น้ำตกคือสวยไม่ไหว จะเห็นว่ามีน้ำตกจากหน้าผาที่ลดหลั่นลงมาอย่างสวยงาม แถมตามหน้าผายังมีกล้วยไม้หลายชนิดให้ชมกันอีกด้วย 

  • ความสูง : 10 เมตร
  • ระยะทาง : 3 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 2 ชั่วโมง
  • ระดับความยาก : 1/5 (Nature Trail)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี (น้ำจะเยอะในช่วงฤดูฝน)
  • ช่องทางการติดต่อ : 08 6092 6527, 08 6092 6529 และ 08 6092 6531 หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park

2. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย

ไหนใครที่เคยดูคลิปคัลเลน กับพี่จองไปเดินภูกระดึงกันแล้วบ้าง เชื่อว่าต้องมีคนอยากเดินป่าตามรอยคัลเลนกับพี่จองแน่ๆ ถ้าพูดถึง ทริปเดินป่า ในประเทศไทย หนึ่งในพิกัดระดับ ตำนาน คงจะขาดภูกระดึงไปไม่ได้ เรียกว่าเป็นสถานที่ เดินป่าระยะไกล ที่ต้องใช้ใจเป็นเดิมพัน บอกเลยว่าคู่รักหลายคู่มาพิสูจน์รักแท้ที่นี่กันเยอะมาก แน่นอนว่าเรื่องความยากลำบากนั้นขึ้นชื่ออยู่แล้ว แต่ที่นี่เขาก็มี ลูกหาบ ที่คอยให้บริการเป็นอย่างดี สำหรับมือใหม่ที่ไปครั้งแรกอาจงง ๆ ว่าเดินขึ้นไปแล้วจะเที่ยวต่อไหนดี ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ คือ ที่นี่จะมีจุดเที่ยวหลัก ๆ อยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่ เส้นทางหน้าผา เส้นทางน้ำตก และเส้นทางป่าปิด จะแวะไปที่ไหนก็เลือกเอาตามความสะดวกได้เลย และอย่าลืมเอาพาสปอร์ตอุทยานไปปั๊มกันด้วยนะ

  • ความสูง : 1,316 เมตร
  • ระยะทาง : 9 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3-5 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน)
  • ระดับความยาก : 2/5 (Hiking/Beginner Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : เดือนตุลาคม – พฤษภาคม
  • ช่องทางการติดต่อ : 0 4281 0833, 0 4281 0834 หรือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park

3. ภูบักได จังหวัดเลย

ภูบักได จังหวัดเลย

ภูบันได ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันทั้งหมด 3 ตำบลของอำเภอภูเรือ ได้แก่ ตำบลสานตม ตำบลท่าศาลา และตำบลปลาบ่า เอาสิ…แจ๋วจริง ๆ ใครอยากไป เดินป่าหน้าฝน ก็สามารถแวะไปที่นี่ได้เช่นกัน ขอบอกว่า ธรรมชาติ โดยรอบคือที่สุด มันสวยแบบไม่รู้จะบรรยายยังไง ยิ่งถ้าเราเดินขึ้นไปด้านบนสุดแล้วล่ะก็ โอ้โห! สุดยอดเลย บรรยากาศดีมาก ๆ วิวทะเลหมอกคือเลิศจริง ๆ ไปตอนไหนก็ประทับใจตอนนั้น ยิ่งถ้าเป็นช่วง ฤดูท่องเที่ยว แล้วก็ไม่ควรพลาดเลย

  • ความสูง : 1,600 เมตร
  • ระยะทาง : ทางชันประมาณ 300 เมตร และทางราบประมาณ 3 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 2 วัน 1 คืน
  • ระดับความยาก : 1/5 (Nature Trail)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี (แนะนำเดือนตุลาคม)
  • ช่องทางการติดต่อ : 086 414 2669 และ 095 957 1930 หรือ 09 5701 3139, 087 866 2648, 087 866 2648 (นายเชิด สิงห์คำป้อง ประธานชมรม) และ 096-4151467 (พี่แสง) สำหรับจองลูกหาบและคนนำทาง 

เส้นทางเดินป่าภาคใต้

ภาคใต้ไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวยนะ แต่ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาป่าที่เดินชิลล์ ๆ ป่าใต้ คงไม่เหมาะแน่ ๆ แต่ถ้าใครเดินป่ามาหมดแล้วอยากลองท้าทายตัวเอง คุณต้องลองมาพิชิตการเดินป่าที่ภาคใต้สักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่าที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นแน่นอน ต้องบอกเลยว่าเส้นทางเดินป่าภาคใต้ เป็นสถานที่เดินป่าที่โหดมาก ถ้าใครใจไม่สู้ บอกเลยอย่ามาเด็ดขาด

1. เขาเจ็ดยอด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด จังหวัดพัทลุง

เขาเจ็ดยอด พัทลุง

นี่คือ สถานที่เดินป่า ยอดฮิตที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่มือใหม่อาจจะต้องอดใจรอก่อนเนอะ เพราะถ้าไม่มีประสบการณ์เลยอาจจะลำบากกว่าเดิม เพราะที่นี่เหมาะกับการ เดินป่าระยะไกล ที่ต้องใช้พลังงานเยอะจัด ระยะทาง ที่เขาเดินกันก็เป็นสิบ ๆ กิโล พอไปถึง ยอดเขา จะรู้เลยว่าลมด้านบนคือลมแรงสุด ๆ คนตัวเล็กปลิวได้เลยอ่ะ และในช่วงเย็น ๆ หมอกจะปกคลุมวิวสวย ๆ หมดเลย ฉะนั้นถ้าไปถึงช่วงบ่าย ๆ ให้รีบไปแชะภาพเก็บไว้ก่อนเลย หลังจากนั้นคงไม่ทันแล้ว

  • ความสูง : 1,250 เมตร
  • ระยะทาง : 11-12 กิโลเมตร (นับจากน้ำตกหนานสะตอ – จุดตั้งแคมป์ (ขึ้นตรัง-ลงตรัง))
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 6-8 ชั่วโมง
  • ระดับความยาก : 4/5 (Difficult Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี (ยกเว้นฤดูฝนที่มีพายุและฝนตกหนัก)
  • ช่องทางการติดต่อ : 08 8506 1171 หรือ ชมรมคนรักเขาเจ็ดยอด

2. เขาฟอกฟืม จังหวัดพัทลุง

เขาฟอกฟืม จังหวัดพัทลุง

เรียกว่าเป็นพิกัด เดินป่าไทย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก นี่คือสถานที่เดินป่าทางภาคใต้ที่อยู่ในเขตอุทยานเขาปู่ เขาย่า จังหวัดพัทลุง ใครอยากสำรวจธรรมชาติบนป่าเขากับผองเพื่อนพร้อมบรรยากาศสุดอบอุ่น แนะนำให้จองทริปล่วงหน้าแล้วเตรียมร่างกายให้พร้อมได้เลย รับรองว่ามาแล้วไม่เพียงแค่จะได้ประสบการณ์อันตื่นเต้นเท่านั้น แต่คุณจะได้เพื่อนใหม่กลับไปด้วย ถ้าไม่อยากพลาดช่วงเวลาดี ๆ ต้องลองมา เดินป่า ที่นี่สักครั้ง

  • ความสูง : 500 เมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 3 วัน 2 คืน
  • ระดับความยาก : 4/5 (Difficult Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
  • ช่องทางการติดต่อ : 08 0088 9888

3. หนานญี่ปุ่น เขาล่อนนมสาว จังหวัดพัทลุง

หนานญี่ปุ่น พัทลุง

อีกหนึ่งพิกัด เดินป่า ในจังหวัดพัทลุงที่ไม่อยากให้นักเดินป่าพลาดเลยจริง ๆ เพราะที่นี่มีป่าที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความหลากหลายมาก ๆ ถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็คือว่าลักษณะป่าของที่นี่จะเปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ วัน ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในหนังยังไงยังงั้นเลย จากวันแรกที่เข้าไปก็จะเห็นป่าเป็นอีกแบบ พอเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นอีกแบบ รับรองว่าถ้าใครมาแล้วจะลืมไม่ลง และอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอน 

  • ความสูง : 1,250 เมตร
  • ระยะทาง : 12 กิโลเมตร
  • ระยะเวลาเดินเท้า : 6-7 ชั่วโมง (4 วัน 3 คืน)
  • ระดับความยาก : 3/5 (Advanced Trekking)
  • ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี (แนะนำช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน)
  • ช่องทางการติดต่อ : 09 8079 9981 หรือ ตรี.ไออุ่นแห่งขุนเขา ภูบรรทัด

เตรียมตัวออก เดินป่า พร้อมล่าประสบการณ์ใหม่ ๆ ท้าทายมากที่สุดในชีวิต

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสถานที่ต่าง ๆ ที่เราแนะนำไป หวังว่านัก เดินป่า มือใหม่ จะรับรู้ถึงความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต บอกเลยว่ากิจกรรม เดินป่า นั้นจะให้ประสบการณ์ใหม่ ๆ กับเราอย่างแน่นอน และต้องพูดตามตรงว่าเบื้องหลังความสวยงามของ ธรรมชาติ นั้นต่างต้องแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย กว่าจะเดินทางไปถึงจุดหมายต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเลยทีเดียว ฉะนั้นหากจะไป trekking ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเสมอ สำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเองจะชัวร์กว่า

BOYTRAVELLERS อุปกรณ์เดินป่า เต็นท์ คุณภาพดี ราคาถูก

INDYTREKKING.COM เว็บไซต์ที่จะทำให้คุณไม่ตกเทรนด์เรื่องเที่ยว

SAGAME พร้อมเปิดบริการเกมส์ออนไลน์เต็มรูปแบบครบวงจรที่สุด ลองเลย !

ไฮโลไทย 2024 แทงไฮโลบนมือถือได้ทุกวัน เล่นง่ายไม่มีขั้นต่ำ

Picture of BOYTRAVELLERS TEAM
BOYTRAVELLERS TEAM

สวัสดีครับ พวกเราคือทีมงาน BOYTRAVELLERS เราเป็นเว็บไซต์ที่มีแบรนด์อุปกรณ์แคมป์ปิ้งของตัวเอง เราจึงมีความเชี่ยวชาญทางด้านการแคมป์ปิ้งอย่างมาก โดยเราได้มุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลของการแคมป์ปิ้งและเรื่องราวการท่องเที่ยวแบบครบวงจร โดยเน้นความเป็นเอกลักษณ์และประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่าง ตั้งแต่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไปจนถึงเคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับนักเดินทางทุกระดับ อีกทั้งเรายังมีการจัดอันดับสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ สำหรับนักเดินทางหรือผู้ใช้ทั่วไป เพื่อให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องเที่ยงตรงมากที่สุดในการตัดสินใจครับ

RECENT POST