กางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ ดอยฟ้าห่มปก การที่ได้รับฉายาหรือชื่อเรียกแบบนี้ ก็มีตำนานเล่าขานกันมาหลายรูปแบบ โดยที่เรื่องเล่าอันดับแรกนั่นก็คือ ความสูงของอุทยานแห่งชาติที่นี่ เราอยู่ใกล้เคียงกับเมฆหมอกเป็นอย่างมาก เรียกว่าท้องฟ้านั้นเป็นผ้าห่มคอยปกคลุมสถานที่แห่งนี้ไว้ตลอดเวลา แต่บางคนนั้นพอได้ไปอยู่ในที่แห่งนี้ หลังจากพระอาทิตย์ได้โบกมือลาและลับขอบฟ้าไปเป็นที่เรียบร้อย ดวงดาวที่เจิดจรัสอยู่บนท้องฟ้า ก็ดูเหมือนกับว่าไม่ได้ห่างจากตัวเราไปซะเลย เพียงแค่เรายื่นมือออกไป ก็มีความรู้สึกว่าเรานั้นสามารถที่จะหยิบดวงดาวมาไว้กับเราได้ง่ายอย่างมาก
กางเต็นท์อุทยานแห่ง ชาติดอยฟ้าห่มปก อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่สถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นเขตติดต่อถึง 3 อำเภอ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ สถานที่แห่งนี้จัดว่าเป็น ที่กางเต็นท์เงียบๆ เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถเข้ามาดื่มด่ำธรรมชาติกันได้ทุกคน ที่ดอยฟ้าห่มปกนี้ การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อที่จะเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ และการจะไปสถานที่กางเต็นท์ จะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ เกือบ 4 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางนี้จะต้องใช้กำลังกายและกำลังใจค่อนข้างมาก แต่การที่เราไปเป็นกลุ่มไม่ต้องรีบเร่ง พูดคุยและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเดินทางเข้าไปกับสถานที่แห่งนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่หายากมากๆ และเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุด สิ่งที่ต้องเตรียมและถือว่าสำคัญมากนั่นก็คือเรื่องของน้ำ ขอสถานที่แห่งนี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ อาหารการกินก็ต้องเตรียมไปเองเกือบทั้งหมด และน้ำนั้นต้องเตรียมไปเผื่อให้เยอะๆหน่อย เพราะการเดินเท้าเข้าไปอาจจะจำเป็นที่จะต้อง ใช้น้ำเพื่อลดความเหนื่อยล้าไปตลอดทาง
กางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ ประสบการณ์ชีวิตที่ใช้เงินซื้อไม่ได้
กางเต็นท์อุทยานแห่งชาติถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เราไม่สามารถจะใช้เงินในการซื้อหามาเก็บไว้กับเราได้ ถ้าเราอยากจะใช้ของหรู หรืออยากจะขับรถคันละ 10 ล้าน เราอาจจะใช้เงินในการเช่าแล้วมาทำการทดสอบทดลองในสิ่งที่เราไม่รู้ เงินเหล่านี้ก็สามารถที่จะตอบโจทย์ให้กับเราได้เรื่องกับอุปกรณ์เทคโนโลยี แต่การจะซื้อธรรมชาตินั้น เราจำเป็นที่จะต้องใช้ตัวเราเองนั้นเข้าไปแลกเปลี่ยนกับธรรมชาติ เงินก็ถือว่าเป็นความสำคัญส่วนหนึ่ง แต่เราไม่ได้ใช้เงินทองมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับที่อื่น เราต้องใช้ร่างกายและจิตใจแลกเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติถึงจะได้ความรู้สึกเหล่านั้นมา เราต้องเดินเท้าเพื่อไปหาสถาน ที่กางเต็นท์เงียบๆ เราต้องใช้กำลังใจในการจะไปพิชิตยอดภูหรือยอดดอยต่างๆ อย่างการที่เราจะไปกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติฟ้าห่มปก ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องวัดใจกันเป็นอย่างมาก บางคนนั้นมีการเตรียมการถึง 3 เดือน เรียกว่าตั้งแต่เริ่มเข้าหน้าฝนก็มีการออกกำลังกายดูแลตัวเอง พอเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวก็มาสัมผัสบรรยากาศหนาวและความเป็นธรรมชาติที่เรานั้นรอคอยมาอย่างยาวนาน การตั้งเป้าหมายแบบนี้มีแต่ข้อดีทุกสิ่งทุกอย่าง ได้ทั้งสุขภาพ ได้ทางด้านแรงใจ เรียกว่าการเข้าหาธรรมชาตินั้นมีแต่ได้กับได้แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
กางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ลำบาก แต่ถ้าเราไม่รู้จักเรื่องราวพื้นฐานของชีวิตของเราบ้าง เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ชีวิตนั้นมีรูปแบบที่สมบูรณ์ที่สุดนั้นเป็นแบบไหน ทำไมปัจจุบันคนที่มีเงินทองมากมาย เขาถึงเลือกใช้เวลาในการทำงานเพียงแค่อาทิตย์ละ 3 หรือ 4 วัน แล้วใช้เวลาที่เหลือเพื่อไปคืนความรู้สึกของตัวเองกับธรรมชาติ เพราะนั่นคือการใช้ตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนในหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เราไม่สามารถใช้เงินแลกมาได้ แล้วเราที่มีโอกาสทำได้ในตอนนี้ กำลังร่างกายแข็งแรงดี สามารถที่จะลุยได้ก็ควรที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านี้ไว้ ถ้าเรามีลูกหลานหรือมีเพื่อนพี่อยากจะทำแบบเรา เราก็สามารถที่จะ แนะนำอย่างถูกวิธีและพูดถึงความสุขที่เราได้รับให้กับเขาได้เช่นกัน
กางเต็นท์อุทยานแห่งชาติฟ้าห่มปก อาจจะดูไกลหรือดูลำบากสำหรับหลายๆคน แต่คนที่ไม่เคยกางเต้นท์มาก่อน อาจจะลองปรับเปลี่ยนสถานที่กางเต็นท์ใกล้ๆดูก่อน เรียกว่าค่อยๆเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่กับธรรมชาติ เริ่มต้นหาสถานที่กางเต็นท์ใกล้ๆตัวเมือง ไม่ต้องเดินทางไกลและลำบากจนเกินไป ศึกษาวิธีการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ การใช้ชีวิตแบบไร้ซึ่งอุปกรณ์ช่วยเหลือ แล้วเราจะได้เข้าใจว่า ความจริงแท้แล้วเราเองยึดติดกับสิ่งช่วยเหลือมากจนเกินไป ถึงแม้เราจะไม่มีอะไรเราก็ยังสามารถอยู่ได้และมีความสุขได้เช่นกัน คราวนี้พอกลับมาปฏิบัติตัวอยู่กับสิ่งรอบตัว เราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ดี และใช้ชีวิตได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นี่คือเหตุผลหลักของการเข้าไปอยู่กับธรรมชาติ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
